พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง พระราชทานวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ทรงตรัสขอบใจ และขอให้ผู้มีหน้าที่สำคัญในสถาบันหลักของประเทศ และประชาชนทุกหมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดเพื่อบ้านเมืองของเรา
วันนี้ (5 ธ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ขบวนรถยนต์พระที่นั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ ถึงยังพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงประกอบการพระราชพิธีออกมหาสมาคม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ครุยราชูปโภค ทรงประทับพระที่นั่งพุดตาลกาญจนสิงหาสน์ ซึ่งเป็นพระราชอาสน์ ประดิษฐานบนพระราชบัลลังก์อีกชั้นหนึ่ง ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านไขพระวิสูตร เจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะนั้น ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล ความว่า
“ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม บัดนี้บรรลุอุดมมงคลสมัย เฉลิมพระชนมพรรษา ข้าพระพุทธเจ้าเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ บรรดาที่ได้มาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในวันนี้ ต่างบังเกิดความปีติปราโมทย์เป็นล้นพ้น ที่ได้เห็นใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมีพระพลานามัยแข็งแรง ผ่านพ้นโรคาพาธทั้งปวงมาโดยสวัสดี ข้าพระพุทธเจ้าสำนึกรู้อยู่ทุกเวลาว่าเป็นผู้มีโชค วาสนาอย่างยิ่งที่เกิดมาในแผ่นดินไทยภายใต้พระบุญญาบารมี จึงได้รับพระมหากรุณาชุดเลี้ยงให้มีความสุข ความเจริญ และมีเกียรติเป็นที่เชิดชูพร้อมทุกสิ่ง
ในมหามงคลสมัยพิเศษนี้จึงขอพระราชทานถวายสัตย์ปฏิญาณจากใจจริงว่า จักมุ่งมั่นปฏิบัติตัว ปฏิบัติงาน ทั้งในฐานะที่เป็นคนไทย และในฐานะที่กำเนิดมาในพระบรมราชจักกรีวงศ์ ให้เต็มกำลังความรู้ ความสามารถ โดยยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต และจงรักภักดีต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และชาติบ้านเมืองตลอดไป กับขอพระราชทานตั้งสัตยาธิษฐานถวายพระพรชัยมงคล ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ จงพร้อมกันอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงพระเกษมสุข ปราศจากมลทินทุกข์ และพยาธิภัย มีพระราชประสงค์จำนงใดที่จะอำนวยประโยชน์สุขให้แก่ประเทศชาติและประชาชน ขอจงสำเร็จสรรพศุภผลดังพระราชหฤทัยจำนงทุกประการ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ”
ต่อมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลตามลำดับ
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำรัสตอบผู้ที่มาเข้าเฝ้าฯ ใจความว่า
“ขอขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิต พรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด ด้วยถ้อยคำที่เลือกสรรมาจากใจจริง ซึ่งปราถนาดี มุ่งหมายให้ข้าพเจ้ามีความสุข ความสวัสดีด้วยประการต่างๆ ความสุข ความสวัสดีของข้าพเจ้าจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญ มั่นคง เป็นปกติสุข ความเจริญมั่นคงทั้งนั้นจะสำเร็จผลเป็นจริงไปได้ ก็ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติ รู้ตัว ด้วยปัญญา รู้ผิด และด้วยความสุจริต จริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น
จึงขอให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญอยู่ในสถาบันหลักของประเทศ และชาวไทยทุกคน หมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วทำตั้งจิต ตั้งใจ ให้เที่ยงตรงหนักแน่น ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอันไพบูลย์ คือ ชาติ บ้านเมือง อันเป็นถิ่นที่อยู่ที่ทำกินของเรา มีความเจริญ มั่นคง ยั่งยืนไป
ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย และอำนวยสุขสิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคลให้สัมฤทธิ์ผลขึ้นแก่ท่าน ทั่วหน้ากัน”
จากนั้นในเวลา 12.25 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินกลับโรงพยาบาลศิริราช