พระราชดำรัสในหลวง 4 ธ.ค. 46

เมื่อเวลา 16.30 น.วานนี้ (4 ธ.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ได้เสด็จฯ ลง ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต โดยทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี และคู่สมรส เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 76 พรรษา โดยมีคณะบุคคล 639 คณะ จำนวนกว่า 22,294 คน เฝ้ารอรับเสด็จฯ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสแก่คณะผู้เข้าเฝ้าฯ ความว่า ขอขอบใจนายกฯ และท่านทั้งหลายที่ได้มาชุมนุมกันเพื่อให้พรในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ซึ่งนับว่าเป็นกำลังใจที่จะมีชีวิตการทำงานต่อไป ที่นายกฯ ได้พูดถึงกิจการที่ได้ปฏิบัติมาในรอบปี ส่วนตัวไม่ได้ทำอะไรมากนัก เพราะกำลังกายไม่ค่อยดี ไปเข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง และเมื่อเข้าโรงพยาบาลจะต้องฟื้นกำลัง

วันนั้นไปที่ปราณบุรี มีการปลูกป่าชายเลน เดินไปดูเขาอธิบายเกี่ยวข้องกับการปลูกป่าชายเลน มีผู้เชี่ยวชาทะเลมาพูดถึงป่าบนภูเขา คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแลทรัพยากรทางทะเล แต่มาพูดถึงป่า ไม่พูดถึงป่าชายเลน ไปพูดถึงป่าบนเขา อธิบายยืดยาว ทำให้ยืนอยู่นาน ไม่ได้นั่ง คนอื่นก็เดือดร้อนไปด้วย ผู้เฒ่าคนหนึ่งเขาว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่นั่ง ก็ไม่นั่งด้วย ยืนขาชาอยู่ 2 ชั่วโมงครึ่ง สำหรับผู้เฒ่าก็ไม่ใช่น้อย ดูนิทรรศการ

ส่วนที่ภาคใต้ ก็ไปดูเขาอธิบายว่าคลองทำไม่ได้ ต้องตัดต้นไทร ชาวบ้านว่าต้นไทรตัดไม่ได้เพราะว่ามีผี เป็นที่ประหารผู้ร้าย สร้างศาลเล็กๆ เพื่อที่จะทำให้ผีผู้ร้ายไม่อาละวาด แต่ถ้าตัดต้นไทรแล้วทำคลองตรงไป ชาวบ้านบอกว่าน่ากลัว เขาจะโดนลงโทษ นึกว่ามีวิธีทำง่ายๆ คือ อ้อมต้นไทร ชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่าถ้าให้ชลประทานขุดคดไปหน่อย จะว่าอะไรไหม ชาวบ้านว่าไม่เป็นไร เลี่ยงต้นไทรไป รัฐมนตรีก็อยู่ที่นั่น อธิบดีกรมชลประทานก็รับไปทำ น้ำก็ไหลได้ดี ไปดูป่าชายเลน ก็ได้ผลในการพัฒนานครศรีธรรมราช

ไปเจอผู้มาจากพิษณุโลก ชาวบ้านคนนั้นมาจากที่อยู่ใกล้แควน้อย ที่จะไหลมาลงแม่น้ำน่าน จำได้ว่ามีที่ที่จะใช้น้ำเพื่อทำเขื่อนที่นับว่าให่พอสมควร ช่วยในเรื่องขาดน้ำ กักน้ำแล้วปล่อยลงมาสำหรับทำนา ทำการเกษตร ในหน้าน้ำ น้ำมามาก จะทำให้พิษณุโลกน้ำท่วมทุกปี ถ้าทำเขื่อนนี้ได้ก็จะดี ก็ถามชาวบ้านว่าเห็นด้วยไหม ชาวบ้านว่าไม่ขัดข้อง มีคนที่เดือดร้อนอาจจะสัก 200-300 คน ก็เลยให้ไปเจรจากับพรรคพวกว่าราชการจะช่วยหาที่ให้ และจะมีความเป็นอยู่ดีขึ้น เขาก็รับ รัฐมนตรีและอธิบดีก็รับว่าจะไปดู นายกฯก็รับว่าจะไปดู

อย่างที่บอกว่า 4 ปี 80 ก็สร้างเสร็จ จะช่วยพิษณุโลกและช่วยเขตใต้แม่น้ำเจ้าพระยาด้วย ทำให้น้ำไม่ท่วม ไม่แล้ว เขื่อนจะจุได้มาก มีคนโวยวายว่าถ้าสร้างแล้วจะมีแผ่นดินไหว ก็บอกว่าต้องศึกษา กลัวว่าจะเกิดรอยร้าวในดิน เราจะเดือดร้อน แต่ที่เดือดร้อนที่สุด คือร้อยร้าวในคน คนเดียวก็ร้าวได้ อย่างที่กระดูกร้าวต้องปะด้วยกาวอีพ็อคซี่ แต่ในหมู่คนมีรอยร้าว ก็ลำบากมาก ต้องหาวิธีที่จะประสานสมานความร้าว

แถวหน้าทั้งแถว ผู้ใหญ่ทั้งนั้น รอยร้าวกันเยอะ ระหว่างคนหลายพวก ติดๆ กัน ไม่ติด ร้าว ไม่สามัคคีกัน ควรจะพูดตอนท้ายให้ท่านทั้งหลายที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กันอย่าให้มีรอยร้าว มีความสมานสามัคคีกัน

ทรงชี้ “ปราบความจน” ก่อการร้ายจะบรรเทา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสต่อว่า ที่ปราณบุรี ใช้ใจบินไปที่นครศรีธรรมราช ไปเยี่ยมต้นไทรที่มีผีหลอก และไปที่พิษณุโลก สร้างเขื่อน วันนั้นไปคุ้ม ไปดูเขาปลูกต้นโกงกาง แล้วก็ได้ทำโครงการเพิ่มเติม หมายความว่า ไม่ต้องไปไหนมาก แต่ก็ด้วยใจ เราสามารถไปพัฒนาทั่วประเทศ พัฒนาทั่วทุกแห่ง จากที่นายกฯพูดว่ายังมีมากที่ควรจะทำ และที่ท่านนายกฯ พูดว่ามีสื่อมาถามว่าจะต่อสู้ลัทธิที่คุกคามประเทศไทยเวลานั้น เขาถามจริงๆ เป็นเวลา 20 กว่าปีนั้น เป็นเวลาวุ่นวาย เขามาสัมภาษณ์หลายครั้ง จำได้ทีเดียว ถามในห้องทำงาน มีแผนที่อยู่บนฝา ให้เขาดูว่าเราไปทำอะไรที่ไหน

เขาจึงถามว่า ที่ทำนี่เพื่อต่อสู้ก่อการร้ายใช่ไหม เราก็ถามว่าก่อการร้ายอะไร ที่เราไปดูไม่ใช่ไปปราบก่อการร้าย แต่ปราบความจน ความเดือดร้อนของประชาชน ก่อการร้ายก็จะบรรเทา ไม่มี จึงต้องปราบความจน ในการปราบความจน ต้องพัฒนาอาชีพ ความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ใช่เพียงแต่ปลูกผักงา แต่เป็นเรื่องความอยู่ดีกินดี ความรู้การศึกษา ต้องช่วยให้การศึกษาดีขึ้น เพราะหากการศึกษาไม่ดี คนไม่สามารถทำงาน การศึกษาระดับสูง นักวิทยาศาสตร์ ถ้าไม่มีการเรียนขั้นประถม ไม่มีทางที่จะให้คนไทยขึ้นไปเรียนในขั้นสูง หรือเรียนขั้นสูงก็เรียนไม่ดี เมื่อไม่รู้เรื่อง ก็จะทำเรื่องที่น่ากลัว

เช่น คนที่ทำระเบิดได้ แต่ก่อนนึกว่ายาก แต่แท้จริงไม่ยาก ที่เขาระเบิดในตะวันออกกลางเร็วๆ นี้ ไม่ได้ใช้ระเบิดปรมาณูอย่างที่กลัวกัน ใช้ปุ๋ยระเบิดทั้งตึก ที่ไทยก็มีเอาระเบิดปุ๋ยมาใช้ แต่โชคดีมีผีอยู่ ทำให้เจอว่ามีระเบิดปุ๋ย ถ้าไม่มีผีที่อยู่ในระเบิด ผีจริงๆ คนเขาฆ่าใส่ไปในถังปุ๋ย ผีทำไงไม่ทราบ โวยวายจนคนเจอ ทำให้เรื่องราวรถบรรทุกระเบิดปุ๋ยมาชนกับรถจักรยานยนต์ เพราะเขากลัวว่าถ้าแล่นต่อไปถูกจับ แต่ก็ถูกจับอยู่ดี ผีอยู่ในระเบิด จึงเจอ ระเบิดเลยเป็นหมัน ระเบิดตึกในแบกแดด ก็ใช้ระเบิดปุ๋ย หมายความว่า วิชาการที่เรียนเอาปุ๋ยมาระเบิดตึก ไม่ใช่วิชาการชั้นสูง

ทรงแนะปฏิรูปศึกษาต้องให้เด็กสงสัยได้

ตอนที่มีก่อการร้ายแถวบุรีรัมย์ มีทหารยศพันโทเกษียณแล้วมาพูด เขาใช้ระเบิดปุ๋ยทดลอง ถ่ายภาพยนตร์วิดีโอให้ดูว่าระเบิดแรง เราไม่มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้อย่างนี้ก็ดี เขาก็ใช้ปุ๋ยมาเป็นระเบิด เพราะเครื่องมือราชการก็ไม่ได้มีมากนัก แต่ว่าทหารในสนามก็คิดพัฒนาอาวุธที่จะทำให้ร้ายแรงระเบิดศัตรูได้

พูดถึงคนที่มีความรู้ ถ้ามีความคิดพลิกแพลงได้ ก็ทำอะไรได้มากมาย ทหารคนนั้นเรียนจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ก็แสดงว่าสอนดีเหมือนกัน ถ้ามีความคิดแหวกแนวแต่เด็ก ก็ทำอะไรได้มาก ถ้ามีความคิดสูงจะยิ่งดี เร็วๆ นี้ นักเรียนไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ ครั้งหลังนับว่าดีขึ้น ได้เหรียทองมาเพิ่มเติม เมื่อก่อนไม่ได้ สมเด็จกรมหลวงฯ พี่สาว สนใจมาก มาบ่นว่านักเรียนมีความรู้ไม่พอเพราะฐานรากของการเรียนไม่พอ ไม่ดี ฐานรากจะมาจากโรงเรียน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยม จนถึงอุดมศึกษา ต้องพัฒนาให้ดี พัฒนาวิธีคิดให้มีความซุกซนในความรู้ อยากเรียนรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคั

ข้าพเจ้าเองเรียนตั้งแต่เด็ก เริ่มต้นที่เมืองไทย เข้าอนุบาลอายุ 3-4 ขวบ กระทั่งเข้าโรงเรียนอายุ 5 ขวบ แต่ไม่ได้เรียนต่อในเมืองไทยต้องตามเสด็จฯ ไปต่างประเทศ ตั้งแต่ 6-17 ขวบ ไปอยู่โรงเรียนอนุบาลถึงขั้นมัธยม ก็พยายามศึกษาในหลักสูตรของโรงเรียนที่มีการสนับสนุนให้คิด ไม่ใช่อย่างที่เมืองไทยเขาหาว่า ครูบังคับนักเรียน วิธีที่คิดใหม่ของรัฐบาล ต้องให้นักเรียนสอนครู ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะเด็กเพิ่งเกิด เพิ่งเห็นโลก จะสอนครูได้อย่างไร

แต่ครูบางคนก็สอนไม่เป็น รัฐมนตรีบางคนก็สอนไม่เป็น แต่ถ้าสอนให้ถูกหลัก จะทำให้เด็กสอนครูได้ ไม่ใช่เด็กสอนครู แต่เมื่อเด็กมีปัหา ต้องยอมให้เด็กพูดขึ้นมา เป็นการสอนครู การปฏิรูปการศึกษาต้องให้เด็กสงสัยได้ ถ้าเด็กร้องต้องฟังเขา หมายถึงฟังเด็ก เพราะเด็กไม่ได้เรียนรู้มา บางคนมีความคิดแหวกแนว ต้องฟังเขา ที่บอกอย่างนี้เพราะประสบการณ์เราเมื่อเด็กๆ เมื่อเราร้องเอ๊ะ ครูฝรั่งก็อธิบายว่าที่เอ๊ะน่ะ แปลว่าอะไร

ท่านนายกฯ เห็นว่า เด็กๆ ควรสอนครูได้ ถูกต้อง แต่สอนกระทั่งครูไม่สอนเด็ก ก็ไม่ได้ ครูที่ดียังมี ในที่นี้มีคนหนึ่งคือท่านนายกฯ เวลานายกฯ ไปสอนเด็ก ให้เด็กสอนครู แต่ท่านนายกฯ ไม่ยอมให้เด็กสอนครู สังเกตดูได้ เห็นท่านนายกฯ สอนแบบโบราณ แต่ท่านนายกฯ ไม่ชอบ ชอบสมัยใหม่ แต่ไม่ต้องน้อยใจ ข้าพเจ้าก็เจอ

ทรงเตือนผู้ว่าฯ ซีอีโอต้องเข้าใจปัหาพื้นที่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสอีกว่า ตอนนั้นนายกฯ ไปประชุมก่อการร้ายที่มาเลย์ มีรองนายกฯ มาพูดเรื่องบูรณาการซีอีโอ เราก็มึนเหมือนกัน เราไม่ทราบว่าท่านพูดอะไร ก็เลยอยากถามท่าน เพราะท่านเป็นครู ทำไปทำมา มาสอนให้เราสอนซีอีโอ เราก็บอกมิบังอาจที่จะสอนซีอีโอ ซีอีโอเขาใหญ่ เขาสั่งได้ทุกอย่าง ตอนหลังถ้าถามเขา ไปเจอซีอีโอที่หัวหิน ที่เอเปค กรุงเทพฯ แล่นรถไม่ได้ น้ำท่วม ได้เจอผู้ว่าฯ ซีอีโอ เขาก็งง เพราะผู้ว่าฯ ซีอีโอเป็นคนเก่ง แต่ซีอีโอสั่งไม่ได้ เพราะคนที่สั่งต้องรู้เรื่อง

ท่านผู้ว่าฯ เพิ่งมา 2 อาทิตย์ ไม่รู้จักที่ ไม่เคยมา ผู้ใต้บังคับบัชาก็ทำหน้าที่ซีอีโอ เขาบอกที่ถนนมีน้ำ 1 เมตร รถแล่นไม่ได้ ทำไปมาภายในชั่วโมง เขาว่าเหลือน้ำเพียง 10 เซนติเมตร หมายความว่า ผู้ว่าฯ ซีอีโอภายใน 1 ชั่วโมงท่านสั่งไม่ให้ปล่อยน้ำมาทางนี้ ลงท้ายก็แล่นรถมาได้ ขากลับก็แห้ง จึงให้เงิน 18 ล้าน 1 แสนแก่เขา เพราะน้ำถูกกัก น้ำทะเลไม่เข้า แต่ปล่อยน้ำเขื่อนลงมา วิธีปราบน้ำท่วม ถ้าน้ำแล้งต้องกั้นไว้ใช้ประโยชน์ แต่ถ้าน้ำมากต้องปล่อยออกไป แต่ไม่มีทางออก น้ำจึงท่วม ไม่มีทางออก จึงต้องตัดถนน หรือตัดเขื่อน

ที่เขื่อนเพชร รับน้ำจากแม่น้ำเพชร ยกระดับน้ำขึ้นสำหรับดันให้เข้าไปตามคลองส่งน้ำ ใช้ในนาสวนที่ต้องการน้ำยามปกติ ที่เพชรบุรีไม่มีคลองระบายน้ำ มีแต่คลองส่งน้ำ เอาน้ำส่งไปที่ที่ต้องการระบายน้ำ เป็นการระบายน้ำออกจากที่ที่ไม่ต้องการ ไม่มีประตูควบคุมน้ำ ประตูกั้นน้ำ ทำให้วุ่นวาย ไม่ใช่ความผิดผู้ว่าฯ ซีอีโอ แต่ท่านไม่รู้ ไม่เคยเรียนชลประทาน ไม่เคยเรียนดูแผนที่ แต่ท่านเรียนเร็ว ลงท้ายก็เรียบร้อย ปีหน้าเชื่อว่าไม่มีน้ำท่วมเพชรบุรี แต่ต้องทำโครงการให้ครบถ้วน

โครงการอ่างเก็บน้ำกุยบุรี เก็บน้ำได้ 32 ล้านลูกบาศก์เมตร ปล่อยน้ำทำให้น้ำมาสมทบที่ประจวบ ที่ทำเขื่อนไม่สูงไม่ให่ เพราะไม่มีเวลา สมัยก่อสร้างมีก่อการร้าย ช่างไม่กล้าชักช้า มีคนถูกยิงตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถูกระเบิด ภายหลังคนเข้าไปมากขึ้น เลยลำบากที่จะสร้างเพิ่มเติม และยังมีช้างมาก่อการร้ายพวกที่เข้าไปอยู่ในนั้น ไปกินสับปะรด เท่ากับว่ากรรมสนองกรรม ต้องทำโครงการช่วยช้าง สร้างเขื่อนให้เก็บน้ำดีขึ้น 2 เมตรกว่าๆ จะได้น้ำเพิ่ม 9 ล้านลูกบาศก์เมตร สู้ที่อื่นไม่ได้ แต่ดีกว่าที่ไม่มี