พระราชดำรัสในหลวง 4 ธ.ค. 46

ทรงแนะต้อง “พอเพียง” ในด้านปกครอง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงมีพระราชดำรัสถึงเศรษฐกิจพอเพียงว่า ที่จะปลูกข้าวพอเพียง ทำให้ประเทศชาติเจริญในทุกทาง ทั้งไม่จน มีกิน มีอาหารใจที่จะทำศิลปะให้มากๆ ความสะดวกให้สามารถสร้างอะไรได้ สำคัญว่าจะต้องรู้จักขั้นตอน นึกว่าจะทำอะไรเร็วเกินไปไม่พอเพียง ช้าไปก็ไม่พอเพียง อาจจะเร็ว แต่ต้องไม่ทำให้คนเดือดร้อน

เราพูดเศรษฐกิจพอเพียงมา 10 ปีแล้ว ต้องปฏิบัติด้วย ที่วัดมงคลชัยพัฒนา เริ่มมา 15 ปีแล้ว ก่อนถึงอายุ 60 ก่อนมีมูลนิธิชัยพัฒนาด้วยซ้ำ ใช้เงินเพื่อนฝูง ซื้อที่คนละพันสองพัน เราก็ไปจัดการ 15 ไร่ นั่นคือ จุดเริ่มต้นเศรษฐกิจพอเพียง ขยายไปทั่วจนรัฐบาลสนใจ ตอนนี้ไม่ต้องโฆษณาแล้ว เพราะคนส่วนให่เข้าใจ ถ้าเข้าใจที่พูดมา ก็เป็นพรที่ดีที่สุด พอใจ

ในด้านปกครอง วิชาการทั้งหลายก็มีพอเพียงเช่นกัน รัฐศาสตร์พอเพียง ถ้าไม่พอเพียงก็ใช้ไม่ได้ ทำให้เละเทะไปหมด ให้พอเพียงในความคิด ทำอะไรพอเพียง จนสามารถอยู่ได้ กองทัพก็ต้องพอเพียง กองทัพทำอะไรพอเพียงเยอะ

การลอยไม่เหยียบดิน “ใช้ไม่ได้”

ต้องพูดเพราะว่านายกฯ มาพูดเมื่อวานนี้ ที่สนามหลวง ถือธง ถือธงชนะๆ ไชโย ทราบดีว่านายกฯ ไม่ชอบให้ใครเตือน เพราะว่าเตือน ใครเตือนเรา มันเคือง เดี๋ยวเล่าให้ฟัง สมเด็จพระบรมราชชนนี เราอายุ 40-50 แล้ว ท่านชม…โอ๊ย…เก่ง แม่ชอบ แต่ท่านบอกว่าอย่าลืมตัว ท่านว่าอย่างนั้น อย่าลืมตัว อย่าลอย ขาต้องอยู่กับดิน ท่านบอกว่าชื่อลูก ภูมิพล ภูมิพลต้องเหยียบดิน ไอ้การลอยไม่เหยียบดินเสร็จ ใช้ไม่ได้ ภูมิพล เหยียบดิน (กระทืบเท้า) ถึงเดิน เดินบนดิน ห้ามไม่ให้ลอย จนกระทั่งอายุเกือบ 60 ท่านหยุด ท่านไม่เตือนแล้ว แม่ชอบ ถ้าทำอะไรดีให้รู้ว่าดี แต่อย่าไปเห่อมากเกินไป

ทรงขอให้ชี้แจงกรณีฆ่าตัดตอน

แต่อย่างนี้ ขอโทษนายกฯ (หัวเราะ) ไม่ใช่ ต้องระวัง ไอ้ชัยชนะการปราบยาเสพติดนั้น ดีที่ปราบ แล้วที่เขาตำหนิ คนตายตั้ง 2,500 คน เรื่องเล็ก 2,500 คน ถ้านายกฯ ไม่ได้ทำ นายกฯ ไม่ได้ทำทุกปี แต่ละปีจดไว้นะ มีมากกว่า 2,500 คนที่ตาย ที่ตายทั้งคนที่เสพติด แล้วขึ้นไปฆ่าคน เผาอะไรต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ต้องไปปราบปกติก็ตายมากเหมือนกัน แต่ไม่พูดถึง ไม่ไปนับ พวกที่ค้า พวกที่ทำ ก็ตายเยอะเหมือนกัน แต่ก่อนนี้ แต่ไม่พูดถึง เชื่อว่าพอๆ กับที่จดว่ามีผู้ที่ตายในสงครามต่อสู้ยาเสพติด

พวกที่ทางเจ้าหน้าที่ได้สังหารไม่ใช่ 2,500 คน ที่เขาสังหารกันเอง แล้วเราจะรับผิดชอบได้ยังไง นายกฯ ทำสงคราม ทำให้คนตาย 2,500 คน ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เขานับแต่ว่าพวกที่ตายเป็นส่วนให่เป็นพวกที่เขาฆ่ากันเอง พวกที่ค้า พวกที่ผลิต เขาฆ่ากันเองจำนวนมาก ที่ทางราชการจะรับผิดชอบก็อาจจะมีจำนวนหนึ่ง ก็ลองถามทางท่านผู้บัญชาการตำรวจไปจำแนกว่าเป็นเท่าไร ก็เชื่อว่าใน 2,500 เนี่ยมีมากที่เขาฆ่ากันเอง และความผิดของเขา มาโยนความผิดให้ท่านซูเปอร์นายกฯ

นายกฯ สั่งให้รองนายกฯ รองนายกฯ ก็เป็นซีอีโอ แต่นายกฯก็เป็นซีอีโอ ก็ซูเปอร์นายกฯ ก็โยนให้ เพราะว่าบอกว่าเป็นผู้ชนะ กลายเป็นว่าผู้ชนะฆ่าหมดเลย ลูกน้องก็ต้องรับผิดชอบ ซีอีโอไม่รับผิดชอบอะไรเลย ต้องให้รองนายกฯ รับผิดชอบ และต้องมี 7 คนใช่ไหม รองนายกฯ 7 คน เป็นผู้รับผิดชอบ และรองนายกฯ 7 คน เขาก็ผลักให้พวกปลัดกระทรวง รัฐมนตรีก่อน พวกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ รัฐมนตรีก็บอกว่าไม่รับผิดชอบ ต้องรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ก็ไม่รับผิดชอบ ผู้ช่วย ปลัดต้องรับผิดชอบ

นายกฯ บอกแล้ว ไม่ให้ทำอะไร รองปลัด รองปลัดก็รับผิดชอบหมด อย่างนี้เป็นการบอกว่าไม่รับผิดชอบ ลงท้ายใครรับผิดชอบ ประชาชนซีอีโอทุกคนรับผิดชอบหมด

แต่เชื่อว่าท่านพูดเล่น ท่านรับผิดชอบ ในที่สุดท่านก็ต้องรับผิดชอบ 2,500 คน และ 2,500 คน ท่านต้องไปถามท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่าจำแนกออกเป็นอย่างไร 2,500 คน และจำแนกไปจำแนกมา ประกาศให้ประชาชนทราบ 2,500 คน ไม่น่าจะพ้นที่ท่านรับผิดชอบ ถ้ารับผิดชอบคนเดียว คนก็ชี้คนเดียว

ตอนนี้มีท่านองคมนตรีต่างๆ ท่านก็ขัดคอรัฐบาล ท่านขัดคอรัฐบาลผ่านพระเจ้าอยู่หัว คือท่านไม่รับผิดชอบอะไร ดูรัฐธรรมนูญ ผู้ที่รับผิดชอบคนเดียวก็คือท่านรัฐบุรุษ ท่านรัฐบุรุษรับผิดชอบ เพราะว่าเวลามีองคมนตรีใหม่มา ท่านเป็นผู้รับสนองฯ ไม่ใช่นายกฯ คนส่วนมากเข้าใจว่าตั้งองคมนตรีต้องเป็นนายกฯ รับสนองฯ ไม่ใช่ ท่านประธานองคมนตรีรับสนองฯ ซึ่งก็เพราะว่าเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูเขาว่าอย่างนั้น ก็เป็นเรื่องแปลก คือว่าเมืองไทยประหลาดในวิธีปกครอง

แต่อย่างไรก็ตาม นายกฯ รับผิดชอบทุกอย่าง ท่านรับผิดชอบทุกอย่าง ก็ต้องยอมรับการตำหนิ คือถ้าจะรับผิดชอบทุกอย่าง ผมให่เพียงคนเดียว อย่าไปว่าผมสั่งคนเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้น คนก็ชี้คนเดียว ถ้ารับผิดชอบคนเดียว คนก็ชี้คนเดียว แต่ถ้าทำดี เรียบร้อย ทุกคนได้รับประโยชน์ทั้งหมด ทุกคนได้รับประโยชน์ และตัวเองก็ได้รับประโยชน์ เพราะว่าทำอะไรรับผิดชอบ สิ่งที่ทำดีก็โก้ คนรับผิดชอบที่ดีที่ถูกต้องอันนี้ที่สำคัญ ฉะนั้นไม่ต้องโกรธ ต้องภูมิใจ แต่ว่าต้องพยายามที่จะพิจารณาว่าอะไรมันจริง อะไรไม่จริง

ถ้าสื่อตำหนิถูกต้องก็ขอบใจเขา

อ่านหนังสือพิมพ์เขาบอกว่า โอ้..รัฐบาลทำไม่ดี ทำรุนแรงเกินไป ไปพิจารณา ให้อ่านหนังสือพิมพ์ อ่านเหล่านั้น เขาเขียนหนังสือพิมพ์เขาติ ตำหนิเรา ก็ฟังเขา ว่าเขาตำหนิอะไร ถ้าเขาตำหนิถูกต้องก็ขอบใจเขา ถ้าตำหนิไม่ถูก ไอ้นี่มันไม่ถูก เบาๆ หน่อย

แต่ว่าที่เดือดร้อน คนที่เดือดร้อนก็คือพระมหากษัตริย์เดือดร้อน เพราะว่าใครตำหนิไม่ได้ เราไม่ได้บอกนะ ท่านที่เขียนรัฐธรรมนูญบอกว่า พระมหากษัตริย์ใครตำหนิไม่ได้ ใครละเมิดไม่ได้ ทำไมเขียนอย่างนั้นไม่ทราบ ไอ้ละเมิดไม่ได้ ถ้าละเมิดไม่ได้ เราก็ไม่รู้ว่าเราทำถูกหรือไม่ถูก

ท่านไม่อยู่แล้วคือแม่ ต้องเชื่อ เราเชื่อคนเดียว เชื่อแม่คนเดียว แต่ท่านอยู่บนสวรรค์ เดี๋ยวนี้ท่านก็อยู่ ท่านก็ตักเตือนอยู่ว่าให้คิดดี ทำดี ถูกต้อง นี่ก็ให้โอวาทกับตัวเอง เพราะว่าไม่มีใครให้โอวาทแล้ว และสบายใจ ก็เข้าใจว่าท่านทั้งหลายอาจจะได้ยินสมเด็จพระบรมราชินีให้โอวาทลูก แล้วเราก็ให้โอวาทข้าราชการ ใครต่อใครที่อยู่ในที่นี้ ประชาชนทั่วไปว่าทำอะไร ถ้าทำดีก็ปลาบปลื้มกัน ถ้าทำไม่ดีก็พิจารณาตัวเองว่าไม่ดี เว้นไว้ อันนี้ที่ควรจะเป็น

พวกนี้ก็ประชาชนเหมือนกัน พวกนี้บางทีเขาก็นึกว่าไม่เป็นประชาชน จริงๆ ก็เป็นประชาชน ถูกให้โอวาทเหมือนกัน คนเขาว่าไม่ได้ให้โอวาท คนเขาว่าให้โอวาทจนเสียงแหบ ถ้าไม่ฟังก็เป็นเรื่องของเขา เหมือนกันถ้าให้โอวาทท่านทั้งหลายไม่ฟัง จนเราเสียงแหบ ก็ไม่เป็นไร ท่านเดือดร้อนเอง ท่านเดือดร้อนจริงๆ ถ้าสมมติให้โอวาทแล้วท่านไม่ฟัง ท่านต้องเดือดร้อน แต่ว่าถ้าฟังเอาไปคิด ก็เชื่อ ไม่ใช่ว่าอวดว่าพูดดี ว่าพูดถูกต้องทุกอย่าง แต่ว่าพยายามอย่างน้อยที่จะพูดให้คนคิด

คำว่าบอกให้แต่ละคนคิดดีๆ ก็ไม่เสียหายอะไร เพราะว่าทำให้งานที่ท่านทำ ท่านเป็นผู้ใหญ่ผู้โต งานผู้ใหญ่ผู้โตทำ ก็ทำให้มีเกิดประโยชน์กว้างขวางออกไปได้ ถ้าคนที่ไม่ได้ถือตัวว่าเป็นผู้ใหญ่ผู้โต ทำอะไรก็ไม่ได้เกิดประโยชน์มากนัก แต่ผู้ใหญ่ผู้โตทำให้เกิดผลแก่คนอื่นมากมาย

รู้สึกว่าพูดพอแล้ว มันชักเหนื่อย แต่ท่านก็เหนื่อยเหมือนกัน นั่งอยู่นี่ก็ฟัง แล้วฟังบางคนก็อาจจะหนาวๆ ร้อนๆ ก็ที่เย็นที่หนาว เพราะเครื่องเย็นใช้ไฟฟ้า ที่ร้อนเพราะว่าไฟที่นี้มันร้อน คนที่อยู่ข้างนอกหนาวๆ เย็นๆ เพราะว่าตอนนี้ค่ำแล้ว ค่ำแล้วน้ำค้างลง แต่ร้อนก็เพราะว่าอากาศมันร้อน ก็อย่าไปคิดอะไรว่า ที่บอกว่าหนาวๆ ร้อนๆ แต่ว่ายังไงขอให้ทุกๆ ท่านที่มาทุกทั่วทุกแห่ง ทั้งข้างนอกและข้างในให้มีความร่มเย็น ให้มีความเจริญทุกคน งานการอะไรที่ทำให้มีผลสำเร็จที่ดี ขอขอบใจท่านทั้งหลายที่มา