“สุเมธ” เตือนดึงฝรั่งบริหารชาติถึงพังได้

“สุเมธ” เตือนคอร์รัปชันร้ายกว่ามะเร็ง ชี้ในหลวงทรงใช้ทศพิธราชธรรมสอนให้รู้จักความพอดี ติงอย่าเห่อฝรั่งเปิดทางเข้ามาบริหารประเทศ แต่คนไทยกลับเป็นได้แค่ภารโรง อย่าคิดแต่จะรวยโดยที่ฐานไม่แน่นหนา ติงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่คิดว่าตัวเองเก่ง

วานนี้ ( 3 ธ.ค.) ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวปาฐกถาพิเศษ ทำดีเพื่อพ่อ ที่หอประชุม จีระ บุญมาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ว่า คนเราไม่ค่อยสนใจเรื่องความดี หรือตามสื่อจะเก็บซ่อนความดีไว้ข้างใน ค้นความดีตั้งนานถึงจะเจอ แต่ความเลวจะขึ้นหน้าหนึ่งตลอด บ้านเมืองที่ยุ่งอยู่ทุกวันนี้เป็นเพราะโลกที่กำลังทำลายตัวเองจากมนุษย์ที่ บริโภคจนเกินเหตุ ทำอะไรไม่ค่อยยั้งคิด นำด้วยกิเลส และตัณหา หารู้ไม่ว่าทั้งกิเลส และตัณหานำไปสู่ความหายนะ

เลขามูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวต่อว่า ในหลวงทรงสอนเรื่องการรู้จักความพอเพียง ทรงสอนมานานแล้ว อย่าว่าแต่เรื่องบริโภคเลย การพูดจาและทุกสิ่งที่ทำให้อยู่ในความพอดีได้ ทรงสอนมาตลอด ทำกันได้ไหมจะได้ไม่เกิดความขัดแย้ง ทะเลาะกัน เพราะแผ่นดินจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย คนไทยรู้ ทุกคนท่องจำได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งว่าจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม หลายคนท่องจำและตอบได้ว่า คือการครองแผ่นดินโดยใช้ทศพิธราชธรรม แต่ถามว่าทศพิธราชธรรมมีอะไรบ้าง น้อยคนจะท่องจำได้ครบทั้ง 10 ข้อ แต่ต้องถามว่าปฏิบัติกันได้บ้างไหม

“ถ้าวันนี้ทุกคนปฏิบัติทั้ง 10 ข้อได้แผ่นดินนี้จะสงบสุขขึ้นอีกเยอะ และคำว่าเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม คำนี้เด็ดขาด ฝรั่งมันสอนอย่างเดียวคือให้รวย ทำอย่างไรก็ได้ให้รวยเอาไว้ก่อน แต่ความร่ำรวยจะสร้างทุกข์ให้ตัวเองหรือผู้อื่นรึเปล่าไม่เคยรู้ รวยอยู่คนเดียวเป็นพอ ซึ่งตรงนี้ไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมของเรา ความร่ำรวยผมว่าเป็นทุกข์ ธรรมาภิบาลของพระเจ้าอยู่หัวท่องกัน แจ๋ว!ทำไมต้องรอให้ฝรั่งมาพูดคำว่า กู๊ดก๊อฟเวอร์แนน ที่ในหลวงบอกมา 30 ปีแล้ว สุดท้าย กู๊ดก๊อฟเวอร์แนน (good governance) ก็แปลว่าธรรมาภิบาลนั่นแหละ” ดร.สุเมธ กล่าว

ดร.สุเมธ กล่าวว่า การใช้ทศพิธราชธรรมในการดำเนินชีวิตนั้น คำแรกบอกว่าทาน คือ รู้จักให้ แต่อย่านึกว่าให้สตางค์อย่างเดียวให้รอยยิ้มก็ได้ จากนั้นก็ศีล คือ ข้อห้าม 5 ข้อมีทุกศาสนา ต่อมาคือ การบริจาคนั้นต้องรู้จักให้ อาชวะ คือ ความซื่อตรง ตอนนี้ทุจริตคอร์รัปชันมันเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด มันต้องใช้อาชวะไว้เป็นยารักษาโรค ไม่อย่างนั้นมันกินหมดตัว ร้ายยิ่งกว่ามะเร็งอีก และความสุภาพอ่อนโยน พระเจ้าอยู่หัวพ่อเรายังทำได้เลย แล้วเรานี่ใหญ่โตมาจากไหนถึงจะมาใหญ่ ยิ่ง เราใหญ่เท่าไรต้องยิ่งลงสู่ดินคนจะได้นับถือ อีกข้อคือ ความเพียร และต้องห้ามโกรธ ใครติเตียนอะไรอย่าไปโกรธ เอามาดูซิว่าเขาพูดนะจริงไหม แล้วต้องมีขันติ ต้องมีความอดทน อีกทั้งต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วย

“เมื่อเราจะทำอะไรก็ต้องรู้รักสามัคคีเอาไว้ อย่าทำคนเดียว ไม่มีใครเก่งคนเดียวในโลกนี้ คนที่นึกว่าตัวเองเก่งจะแบกโลกนี้ไว้คนเดียว ไม่มีแน่ มีแต่คนโง่เขลาเบาปัญญา ต้องชักชวนกันมา คือ คำว่าสามัคคี คนๆ เดียวแบกโลกไว้ไม่ได้ อย่าว่าแต่โลกเลย โลกน้อยๆ ของเราคนๆ เดียวก็แบกไม่ได้” เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนากล่าว

เลขามูลนิธิชัยพัฒนากล่าวในตอนท้ายว่า การพัฒนาของเราอยากรวยอย่างเดียว แต่ฐานไม่มี เหมือนสร้างบ้านก็ต้องเริ่มจากฐานก่อน แต่เราไม่เคยสร้างฐานให้แข็งแรง วันหนึ่งเกษตรไม่เอาแล้ว ไปอุตส่าห์หากรรมกันดีกว่า อยากเป็นเสือตัวที่ 5 เป็นคนดีๆไม่ชอบ ใฝ่ต่ำ อยากเป็นสัตว์ ไปกู้เงินเขา ไปยืมเขา เทคโนโลยีก็ไปซื้อเขา แล้วบอกว่าทรานเฟอร์เทคโนโลยี เอาฝรั่งมาบริหารแต่เราเป็นได้แค่ภารโรง สุดท้ายเศรษฐกิจก็พัง สติก็เกิด จึงมาพูดกันว่าเราเอา เอสเอ็มอี ก็แล้วกัน ทั้งหมดเป็นเพราะว่าเราโลภมากอยากรวย


ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 4 ธันวาคม 2548