รายงานจากกรุงโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมาว่า อาเธอร์ ซี คลาร์ก (Arthur C Clarke) นักประพันธ์นิยายวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์เจ้าของแนวคิดเรื่องการสื่อสารผ่านดาวเทียม จากโลกนี้ไปแล้ววันนี้ในวัย 90 ปีหลังจากเจ็บป่วยมาระยะหนึ่ง

ท่านเซอร์จากพวกเราไปในช่วงเช้าของวันที่ 19 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่นของศรีลังกาที่โรงพยาบาลอพอลโลในกรุงโคลอมโบ (Colombo’s Apollo Hospital) สาเหตุจากระบบหายใจบกพร่อง
ท่านเซอร์เคยต่อสู้กับอาการป่วยหลังจากเป็นโปลิโอ (Post Polio Syndrome) ในช่วงต้นของทศวรรษ 1990 ทำให้ท่านต้องนั่งอยู่บนรถวีลแชร์มาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา
รายได้หลักสำหรับการเลี้ยงชีพของท่านเซอร์อาเธอร์มาจากน้องชาย เฟรด (Fred) และน้องสาวของท่าน แมรี่ (Mary) ทั้งสองอาศัยอยู่ที่ไมน์เฮด ซอมเมอร์เซ็ท ในสหราชอาณาจักร (Minehead, Somerset, UK) ขณะที่น้องชายคนสุดท้องของท่าน ไมเคิล (Michael) จากไปครอบครัวไปก่อนแล้ว
เฮคเตอร์ เอกานายาเก (Hector Ekanayake) ผู้ช่วยของท่านและผู้นำของครอบครัวชาวศรีลังกาที่ท่านเซอร์อุปการะ อยู่กับท่านจนวาระสุดท้ายพร้อมกับทุกคนที่ทำงานร่วมกับท่านทั้งในที่ทำงานและที่บ้าน
คำบอกเล่าจากคนเหล่านี้ว่า ท่านเซอร์ยังคงตื่นตัวและกระฉับกระเฉงอยู่แม้จะไม่ค่อยสบาย ท่านยังคงติดต่อกับเอเย่นต์หนังสือ โรงพิมพ์และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานไม่แสวงหากำไรอย่างมูลนิธิอาร์เธอร์ ซี คลาร์ก (Arthur C Clarke Foundation) ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาอยู่เป็นประจำ
ไม่กี่วันก่อน ท่านเซอร์ยังคงทำงานทบทวนต้นฉบับสุดท้ายของนวนิยายวิทยาศาสตร์เล่มล่าสุด The Last Theorem ที่ท่านเขียนร่วมกับนักเขียนชาวอเมริกันนาม เฟดเดริก โพหล์ (Frederik Pohl) โดยมีกำหนดการจัดพิมพ์ในช่วงปลายปีนี้
เซอร์อาเธอร์มีความปรารถนาให้งานศพของท่านจัดขึ้นในศรีลังกาอย่างเป็นส่วนตัว ท่านเคยขอให้ฝังร่างอันไร้วิญญาณของท่านในสุสานประจำครอบครัวเอกานายาเก (Ekanayake) ที่สุสานคาเนต (Kanette General Cemetery) ในกรุงโคลอมโบ
เซอร์อาเธอร์ได้ฝากคำสั่งสุดท้ายในการจัดงานศพของท่านอย่างเคร่งครัดไว้ว่า “ขออย่าจัดพิธีกรรมทางศาสนาไม่ว่าจะเป็นแบบใด จากศาสนาไหนในงานศพของข้าพเจ้าโดยเด็ดขาด”
ข้อมูลเกี่ยวกับเซอร์อาเธอร์ ซี คลาร์ก
จากวิดีโอในวันเกิดครบ 90 ปีของท่านที่ออกเผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เซอร์อาเธอร์กล่าวว่า “ท่านไม่มีความเศร้าหมองและไม่มีความทะเยอทะยานส่วนตัวเหลืออีกต่อไปแล้ว” ความหวังครั้งสุดท้าย 3 ประการของท่านคือ 1. อยากเห็นหลักฐานของสิ่งมีชีวิตนอกโลก 2. อยากให้มนุษย์เปลี่ยนไปใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานสะอาด และ 3. ท่านอยากเห็นสงครามกลางเมืองในศรีลังกาสงบลงเสียที
ท่านทิ้งท้ายไว้ว่า “แม้ผมจะเคยทำงานมามากมายหลายแบบตั้งแต่เป็นนักเขียน เป็นนักสำรวจใต้ทะเล เป็นนักประชาสัมพันธ์เรื่องอวกาศและเป็นผู้ผลักดันให้วิทยาศาสตร์เป็นที่สนใจโดยทั่วไป ทั้งหมดนี้ผมต้องการเพียงให้ผู้คนจดจำผมว่าเป็น ‘นักเขียน’ มากที่สุด เป็นนักเขียนที่สร้างความสำราญให้กับผู้อ่าน และหวังว่าจะเป็นนักเขียนที่ช่วยให้ผู้อ่านมีจินตนาการที่กว้างไกลยิ่งขึ้น”
อาร์เธอร์ ซี คลาร์กเขียนหนังสือไว้มากกว่า 100 เล่มและเขียนเรื่องสั้นไว้มากกว่า 1,000 เรื่องตลอดเวลาการทำงาน 60 ปี โดยมีนวนิยายขายดีอย่าง Childhood’s End, 2001: A Space Odyssey, Rendezvous with Rama และ Fountains of Paradise
และเรื่องสั้นอย่าง ‘Dial F for Frankenstein’ (ค.ศ. 1964) ยังเป็นแรงบันดาลใจให้นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษนาม ทิม เบิร์นเนอร์ส-ลี (Tim Berners-Lee) คิดประดิษฐ์ World Wide Web ขึ้นในปี ค.ศ. 1989 ส่วนเรื่องสั้นอีกเรื่อง ‘The Sentinel’ (ค.ศ. 1948) ก็ถูกนำมาต่อยอดเป็นภาพยนตร์เรื่อง 2001: A Space Odyssey ที่ท่านเขียนร่วมกับ สแตนลีย์ คูบริก (Stanley Kubrick) และทั้งคู่ได้ร่วมกันเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปี ค.ศ. 1969
หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ เซอร์อาเธอร์เขียนหนังสือและบทความเกี่ยวกับการท่องอวกาศ, เทคโนโลยีการสื่อสาร, การสำรวจใต้ทะเลและอนาคตศึกษาไว้มากมาย
เอกสารทางวิทยาศาสตร์ชิ้นสำคัญชื่อว่า “Extra-terrestrial Relays” ถูกตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1945 เซอร์อาเธอร์ ซี คลาร์ก เป็นคนแรกที่สร้างหลักการสื่อสารผ่านดาวเทียมด้วยกลุ่มดาวเทียมที่อยู่ ณ วงโคจรค้างฟ้า เซอร์อาเธอร์ไม่เคยสงวนสิทธิ์ในหลักการดังกล่าว และไม่เคยได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากการคิดค้นครั้งนี้ ทำให้ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ก๊อดฟาเธอร์ของการสื่อสารผ่านดาวเทียม’ และยังมีการตั้งชื่อวงโคจรค้างฟ้าเพื่อเป็นเกียรติกับท่านว่า ‘Clarke Orbit’
อาเธอร์ ชาร์ลส คลาร์ก (Arthur Charles Clarke) เกิดในเมืองไมน์เฮด ซอมเมอร์เซ็ท ประเทศอังกฤษ เข้ารับการศึกษาในโรงเรียน Huish’s Grammar ในเมืองทอนตัน (Taunton) และ King’s College ในกรุงลอนดอน (London) จากนั้นเข้าทำงานใน British Exchequer and Audit Department และเข้ารับราชการทหารเป็นนักบินให้กับกองทัพอากาศแห่งสหราชอาณาจักรก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นนักเขียนเต็มตัวในปี ค.ศ. 1950
ความสนใจในการดำน้ำและการสำรวจใต้ทะเลเป็นแรงผลักดันให้ท่านมาที่ประเทศซีลอน (Ceylon ปัจจุบันคือศรีลังกา) และตั้งรกรากที่นี่ในปี ค.ศ. 1956 ท่านเป็นผู้บุกเบิกการดำน้ำและการท่องเที่ยวใต้ทะเลในศรีลังกาด้วยการตั้งบริษัท Underwater Safaris และยังมีส่วนสำคัญในฐานะนักปราชญ์และผู้สนับสนุนการศึกษาศิลปะ วิทยาศาสตร์และการศึกษาระดับสูงอีกด้วย ท่านเซอร์เข้ารับตำแหน่งประธานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งโมราตูวาในศรีลังกา (Chancellor of Srilanka’s technological University of Moratuwa) ระหว่างปี ค.ศ. 1979 ถึง 2002 อีกด้วย
แม้ว่าท่านจะได้รับเกียรติเป็นแขกกิตติมศักดิ์ของประเทศในปี ค.ศ. 1975 เซอร์อาเธอร์ยังคงสถานะราษฎรอังกฤษอยู่เหมือนเดิม จนกระทั่งปี ค.ศ. 2005 รัฐบาลของศรีลังกาได้เชิดชูท่านเป็น ‘ลังกาภิมันยา’ (Lankabhimanya – ‘Pride of Lanka’) เป็นเกียรติสูงสุดของราษฎรแห่งประเทศ
ทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูง นักวิทยาศาสตร์ ศิลปินและนักการทูตมากมายเดินทางมาเข้าร่วมอวยพรเซอร์อาเธอร์ในวันเกิดครบรอบ 90 ปีของท่านเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2550
ผลงานตลอดชีวิตของเซอร์อาเธอร์เป็นที่ประจักษ์จนได้รับพระราชทานฐานันดรชั้นอัศวินจากสมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 2 ในปี ค.ศ. 1998 หลังจากที่เคยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น CBE มาแล้วในปี ค.ศ. 1989 เซอร์อาเธอร์ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์มากมายจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก และท่านยังชนะเลิศรางวัลการประพันธ์นิยายวิทยาศาสตร์ชั้นนำมาแล้วทุกรางวัล บ้างชนะหนึ่งครั้ง บ้างก็ชนะหลายครั้ง
ในปี ค.ศ. 1996 สมาพันธ์อวกาศนานาชาติ (International Astromical Union) ได้ตั้งชื่อดาวเคราะห์หมายเลข 4923 เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่าน และนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งโมนาช ประเทศออสเตรเลีย (University of Monash, Australia) ได้ตั้งชื่อสปีชีส์ของไดโนเสาร์ที่เพิ่งค้นพบใหม่ในปี ค.ศ. 2003 ว่า Serendipaceratops arthurcclarkei
เว็บลิงค์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:
วิดีโองานวันเกิดครบรอบ 90 ปี : http://www.youtube.com/watch?v=3qLdeEjdbWE
ถอดความจากวิดีโองานวันเกิดครบรอบ 90 ปี : http://www.tveap.org/news/0712art_transcript_01.html
เว็บไซต์ของมูลนิธิอาร์เธอร์ ซี คลาร์ก
ประวัติโดยย่อของอาร์เธอร์ ซี คลาร์ก : http://www.clarkefoundation.org/acc/biography.php
และ http://www.clarkefoundation.org/acc/vita.php
รายชื่อหนังสือของท่าน: http://www.clarkefoundation.org/acc/bibliography.php
รูปภาพ:
สามารถติดต่อขอรับไฟล์รูปถ่ายทั้งหมดของเซอร์ อาร์เธอร์ ซี คลาร์ก ในแบบความละเอียดสูงไปใช้งานได้ฟรีที่
Contact: Nalaka Gunawardene,
Spokesperson, Office of Sir Arthur C Clarke in Colombo, Sri Lanka
Mobile: + 94 777 714 525
Email: <media@arthurclarke.org>
ช่องทางการติดต่อในสหรัญอเมริกา:
Arthur C Clarke Foundation in the United States
Tedson Meyers, Chairman
Mobile: + 1 202 236 0200
Email: <tmeyers@tedson.com>
ช่องทางการติดต่อในอังกฤษ:
Chris Howse
Rocket Publishing Company
Dene Court, Bishops Lydeard, Taunton, Somerset TA4 3LT, UK.
Phone: + 44 1823 432 671
Email: <rocket.pc@btconnect.com>
ร่วมแสดงความระลึกถึงเซอร์อาร์เธอร์ได้ที่นี่
ที่มา Sir Arthur Clarke dies at age 90. ข่าวจากเว็บไซต์ของมูลนิธิอาร์เธอร์ ซี คลาร์ก
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Wikipedia.org
ปรับปรุงข้อมูล:
3 เมษายน 2551 – ทั้งท่านเซอร์และคูบริกทำได้เพียงเข้าชิงรางวัลออสการ์ร่วมกัน ไม่ได้รับรางวัลในปีนั้น – ขอบคุณคุณ arnon เพื่อนสมาชิกที่ Freemac dor NET สำหรับคำแนะนำครับ