พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราชไปยังพระบรมมหาราชวัง เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 5 ธันวาคม 2553 ประชาชนส่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง ทรงย้ำคนไทยมีสติรู้ตัวไม่ประมาท เข้าใจและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เพราะหากประมาท ขาดสติยั้งคิด ทำให้เกิดความผิดพลาด เสียหาย เป็นอันตราย ทำให้กระทำสิ่งที่มิใช่หน้าที่โดยชอบ อาจจะนำความเสื่อมสลายมาสู่ตนเองและประเทศชาติได้
วันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2553 เวลา 10 นาฬิกา 30 นาที ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับรถไฟฟ้าลงจากอาคารที่ชั้น 16 พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาใน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พัชรกิตติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เพื่อทรงออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน พระบรมหาราชวัง
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราช ข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าเข้าสู่ถนนราชดำเนินใน โดยทั้งสองพระองค์ทรงโบกพระหัตถ์ให้แก่ประชาชนที่เฝ้าฯ รับเสด็จ ตลอดเส้นทางจนถึงประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง
ทั้งนี้ ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงมาจากอาคารที่ประทับ ณโรงพยาบาลศิริราช ประชาชนซึ่งสวมเสื้อสีชมพู พร้อมโบกธงสะบัดจำนวนมากที่มาเฝ้าฯรับเสด็จ ได้เปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” เพื่อถวายพระพรไปตลอดเส้นทางอย่างกึกก้อง ด้วยความปลาบปลื้มปีติที่ได้ชื่นชมพระบารมี จนกระทั่งถึง พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย
กระทั่งเวลา 10 นาฬิกา 57 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับรถไฟฟ้าเข้าสู่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ซึ่งมีบรรดาองคมนตรี นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ฯลฯ เฝ้าฯ รอรับเสด็จฯอยู่ด้านใน เพื่อเตรียมกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยเนื่องในโอกาสวันมหามงคล
จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงยืนเฝ้าฯ หน้าแถวพระบรมวงศ์ ด้านซ้ายพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร ขณะที่ม่านหน้าที่ประทับพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ หน้าแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตรปิดอยู่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร พร้อมแล้วเจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตรมโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออกยังหน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ แล้วนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล ตามลำดับ
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาหารทหารสูงสุด พร้อมด้วยทหารทุกเหล่าทัพถวายคำสัตย์ปฏิญาณ
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสตอบ ความว่า
“ขอขอบพระทัยและขอขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่งที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด ด้วยถ้อยคำที่เลือกสรรมาจากใจจริง บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่นร่มเย็นปกติสุขมาช้านาน เพราะเรามีความยึดมั่นในชาติ และต่างร่วมมือร่วมมือร่วมแรงใจกันทำหน้าที่โดยนึกถึงประโยชน์ ส่วนรวมของชาติเป็นเป้าหมายสำคัญสูงสุด ท่านทั้งหลายในสมาคมนี้ ตลอดจนคนไทยทุกหมู่เหล่า จึงควรทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนไว้ให้กระจ่างและนำไปปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ด้วยความไม่ประมาทและด้วยความมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ เพราะการกระทำโดยประมาท ขาดความรอบคอบ เป็นเหตุให้เกิดความผิดพลาด เสียหายในหน้าที่และการกระทำโดยขาดสติยั้งคิด ขาดเหตุผล เป็นเหตุให้เกิดหลงลืมความกลัว ทำให้กระทำสิ่งที่มิใช่หน้าที่โดยชอบได้ ซึ่งเป็นอันตรายมาก อาจจะนำความเสื่อมสลายมาสู่ตนเองตลอดทั้งประเทศชาติได้ จึงขอให้ทุกคน ได้สังวรณ์ระวังให้มากและประคับประคองกาย ใจ ให้เที่ยงตรง หนักแน่น ในอันที่จะปฏิบัติภารกิจตามเหตุผลของตนให้ถูกต้องตามหน้าที่ เพื่อความมั่นคงและเพื่อประโยชน์สุขอันยั่งยืนของชาติไทยเรา
ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ปราศจากภัย และอำนวยสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลให้สำเร็จผลขึ้นแก่ท่านทั่วหน้ากัน”
เวลา 11 นาฬิกา 20 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงจากพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง ออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย แล้วเสด็จฯประทับรถยนต์พระที่นั่งพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ กลับมายังโรงพยาบาลศิริราช ตามเส้นทางเดิม