งาน ‘สัมมนานักเขียนสี่ภูมิภาค ครั้งที่ 1’ โดยความร่วมมือระหว่างสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) เมื่อปลายเดือนมิถุนายน เปิดงานด้วยการปาฐกถานำโดยเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ “หัวข้อเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของนักเขียนไทย”
เนาวรัตน์ เกริ่นกล่าวยกย่อง “ศรีบูรพา” เป็นตัวอย่างของนักเขียนที่มีเกียรติภูมิและมีศักดิ์ศรี พร้อมกับให้แนวทางนักเขียนว่าต้องอย่าตกยุค อย่าล้ำยุค อย่าหลงยุค อย่าประจบยุค นักเขียนไทยต้องทันยุค เป็นปากเสียงของคนที่เสียเปรียบ และมีจิตสำนึกทางการเมือง ต้องทำงานดุจราชสีห์ที่ไม่ไยดีต่อมงกุฎ และไม่ยินดีที่จะเอาคราบของสัตว์อื่นมาครอบร่าง
จากนั้นเปิดวงสัมมนาด้วยประเด็นร้อน “สถานการณ์ของนักเขียนไทย-ในท่ามกลางกระแสสังคมเป็นเช่นไร” หัวข้อหนักๆ อย่างนี้ ได้นักเขียนคุณภาพอย่าง อัศศิริ ธรรมโชติ, วัฒน์ วรรลยางกูร, โชคชัย บัณฑิตศิละศักดิ์ (โชคชัย บัณฑิต’) และ ปาลิฉัตร ศาลิคุปต์ (กิ่งฉัตร) ร่วมพูดคุย โดย ชมัยภร แสงกระจ่าง นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ดำเนินรายการ
อัศศิริ ย้อนรอยว่าเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ก็มีการจัดสัมมนาเรื่องนักเขียนไทยจะไปทางไหน เนื่องจากขณะนั้นกระแสสังคมก็สับสนคล้ายกับทุกวันนี้ แต่สำหรับปัญหาใหญ่ของคนปัจจุบันผันผวนมาก เนื่องจากเงินเป็นปัจจัยความอยู่รอด คนที่ไม่มีเงินกลายเป็นคนไร้ศักดิ์ศรีอย่างสิ้นเชิง นักเขียนเองต้องทำงานเหมือนนักการตลาดด้วย ความคิดที่จะเป็นหัวหอกทางวัฒนธรรมจึงแทบไม่มี
ทั้งนี้จากประสบการณ์ 3-4 เหตุการณ์ใหญ่ของนักเขียนซีไรต์คนนี้ ทำให้เขาคิดว่านักเขียนก็มีหน้าที่ส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ผลงานที่ต้องสะท้อนสังคม และพยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรงต่างๆ ที่สำคัญต้องติดตามข่าวสาร และกล้าทวนกระแสเพื่อสร้างมุมต่าง พร้อมกันนี้ต้องกันการแตกแยก และประคองให้สังคมเกิดสันติภาพ
ด้าน วัฒน์ กล่าวถึงสภาพการเมืองกับนักเขียนว่า ไม่ว่าสังคมจะสับสน และแตกแยกอย่างไร นักเขียนก็ยังต้องทำงานกันต่อไป
“นักเขียนอย่างเราก็มีหน้าที่เพียงรักษาความมุ่งมั่น ความสดชื่น บำเพ็ญบารมีในงานเขียนของเราให้ดี คือเขียนหนังสือให้ดีทุกวัน แล้วผลที่ได้ก็จะตามมาเอง” นักเขียนรางวัลศรีบูรพาปีล่าสุด กล่าว
ต่อกันที่ โชคชัย กล่าวในฐานะกวีว่า กวีสร้างสรรค์ก็ไม่ต่างอะไรไปจากเอ็นจีโอ มีวิถีชีวิตไปในทางเดียวกัน คือยืนข้างความเป็นธรรม ยืนข้างกลุ่มของผู้เสียเปรียบ ผลงานจึงออกมาในเชิงสะท้อนสังคมอยู่ดี
สำหรับ กิ่งฉัตร มองว่า นักเขียนรุ่นใหม่จะต้องก้าวให้ทันสื่อ และยุคสมัยของสังคม จึงต้องศึกษาข้อมูล และปรับปรุงตัวให้ทันสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
แค่ยกแรก เสียงสะท้อนของนักเขียนก็เสียดทะลุกลางคลื่นสังคมแห่งยุคสมัยนี้เข้าให้แล้ว
ที่มา หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2550