นี่ไม่ใช่ระยะทางที่เพิ่งไปท่องเที่ยวรอบโลกมา ไม่ใช่ระยะทางเปรียบเทียบของการเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง และไม่ใช่การสั่งสมตัวตนใดๆ เพื่อใช้อวดอ้างความอหังการ์ สารภาพได้ไม่ต้องขวยอายเลยว่าไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยแม้จะเพียงนิดหนึ่งตั้งแต่เกิดและดำรงชีวิตมาจนถึงวันนี้ว่าจะได้เห็นตัวเลขนี้ จนกระทั่งได้เดินทางมาถึงสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตัวเลข 4,000 กิโลเมตรนี้เป็นระยะทางสะสมตลอดเวลาเกือบสองปีที่เริ่มออกกำลังกายด้วย Nike+iPod Sport Kit ตั้งแต่เริ่มเดินเหินเร็วๆ จนกระทั่งสามารถออกวิ่งเหยาะๆ ได้ต่อเนื่องยาวนาน นี่ไม่ใช่การหลงไหลไปกลับวัตถุ แต่เป็นการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมมารับใช้วิถีชีวิตสมัยใหม่ต่างหาก
แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสะสมระยะทางได้ขนาดนี้ แต่ที่ยากกว่านั้นคือการรักษาความต่อเนื่องให้สม่ำเสมอยาวนานต่อไป ระหว่างการออกกำลังกายจึงไม่ใช่เพียงการกระทำให้ผ่านพ้นไป แต่ยังได้เรียนรู้อยู่ทุกย่างก้าวว่าสภาพข้างในนั้นเป็นอย่างไร จะรับมือกับความรู้สึกต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาได้อย่างไร จะต่อสู้กับสภาพร่างกายและสภาพจิตใจต่างต่างนานาที่พร้อมจะลากให้สมองสั่งไม่ใช้ก้าวเท้าต่อไปแล้วเปลี่ยนไปเอนกายไม่ต้องทำอะไรให้เหนื่อยต่อไปได้อย่างไร
อีกทั้งสมองยังสามารถใคร่ครวญถึงเป้าหมายของการกระทำต่างๆ นั้นอย่างมีสติ และยังสามารถวางแผนให้สามารถพาร่างกายที่หนักและเหนื่อยล้านี้ไปถึงจุดหมายที่ต้องการได้อย่างไร
เรื่องราวของระยะทาง 4,000 กิโลเมตรยังมีเรื่องราวเบื้องหลังอีกมากมายที่น่าสนใจและน่าบันทึกเอาไว้
ในข่วงเวลาก่อนเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาไม่นานนี้ พลันมีความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นมาเพื่อเตรียมสัมภาระสำหรับการทำงานใหม่ที่อาจจะเข้าในเป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายนัก ประเด็นหนึ่งที่ความคิดนั้นคือถึงเวลาเปลี่ยนรองเท้าวิ่งแล้วหรือยัง จะเปลี่ยนรองเท้าหนังคู่ใหม่หรือเปลี่ยนรองเท้าวิ่งคู่ใหม่ก่อนดี ไม่ช้านานก็ได้ข้อสรุปเฉพาะประเด็นนี้ว่าคงต้องเปลี่ยนรองเท้าหนังคู่ใหม่เสียก่อนเพราะมีความจำเป็นต้องใช้งานให้เหมาะสมกับกาละเทศะเป็นสำคัญ
ความคิดเรื่องการเปลี่ยนรองเท้าวิ่งก็มิได้ถูกลบไปเสียทีเดียว เพราะว่ารองเท้า Nike Air Zoom Moire+ ที่ใช้มาตั้งแต่ Nike+iPod Sport Kit เข้ามาในเมืองไทยคู่ที่ใส่ว่ิงอยู่นี้มีทีท่าจะถึงเวลาแล้วเช่นกัน พื้นรองเท้าด้านส้นเท้าด้านนอกทั้งสองข้างสึกไปมากจนแม้เพียงแค่ใส่ยืน ก็ดูเหมือนข้อเท้าจะสองจะต้องโก่งตัวออกด้านนอกไปด้วย บังเกิดความกลัวไม่น้อยว่ายิ่งใส่วิ่งด้วยจะทำให้เสียสุขภาพจากการลงน้ำหนักไปบนส้นรองเท้าที่สึกหรอนี้หรือเปล่า





แล้วเมื่อไหร่จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนรองเท้าวิ่งเล่า เคยอ่านเจอในบทความเหมือนกันว่าควรเปลี่ยนรองเท้าที่ระยะทางประมาณสองพันกิโลเมตรหรือระยะเวลาการใช้งานราวหนึ่งปี ก็แหม…ใครจะเปลี่ยนเร็วขนาดนั้นหากรองเท้ายังอยู่ในสภาพดีพอ ราคาที่ต้องจ่ายไปเพื่อซื้อหามาใช้ก็ไม่ใช่ถูกๆ ต้องใช้งานให้คุ้มค่าจริงๆ
มานั่งพิจารณาในคราวแรกก็ได้ความคิดว่าสมควรเปลี่ยนรองเท้าเสียทีเมื่อวิ่งครบเวลา 2 ปี ถือเสียว่าให้รางวัลกับตัวเองก็ได้ การณ์ผ่านล่วงปีใหม่มาไม่นานก็รู้สึกได้ว่าผลของการวิ่งด้วยรองเท้าอายุการใช้งานยาวนานขนาดนี้เริ่มส่งผลแล้ว เป้าหมายใหม่จึงจำเป็นต้องเลื่อนเข้ามาให้เร็วขึ้น
พิจารณาต่อไปถึงสถิติต่างๆ ที่สะสมอยู่ในระบบของ Nike+ ก็เห็นได้ว่าหมุดหลักสำคัญของระยะทางสะสมกำลังใกล้เข้ามา อีกไม่นานจะสามารถทำระยะทางได้ถึง 4,000 กิโลเมตรแล้ว ในช่วงเดือนมกราคมจำเป็นต้องหยุดวิ่งไปหลายวัน เสียโอกาสในการสะสมระยะทางให้ถึงหมุดหลักสำคัญนี้โดยเร็ว แต่ก็ประจวบเหมาะกับเป้าหมายประจำเดือนที่ต้องการสะสมระยะทางให้ได้สองร้อยกิโลเมตรต่อเดือน ทำให้เห็นเส้นชัยใหม่อยู่ที่ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี่เอง
หมายความว่าหากสามารถเก็บระยะทางของเดือนให้ถึงสองร้อยกิโลเมตรตามเป้าหมาย เพิ่มเติมอีกนิดหน่อยก็จะสามารถไปถึงหมุดหลักสำคัญที่ 4,000 กิโลเมตรได้จริง เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่จะเปลี่ยนรองเท้าวิ่งคู่ใหม่เมื่อถึงหมุดหลักสำคัญนี้ เป็นการเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่สำหรับเดือนใหม่ที่มีระยะทางอีกสองร้อยกิโลเมตรที่ต้องสะสมรออยู่อีกเช่นเคย
การตั้งเป้าหมายต้องตามมาด้วยแผนดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น แต่ละวันที่ผ่าน แต่ละสัปดาห์ที่ล่วงไปล้วนมีความหมายทั้งนั้น นั้นเพราะจะมีเหตุจำเป็นที่ต้องหยุดวิ่งในบางวัน แผนการวิ่งเพิ่มเติมในตอนเย็นก็น่ากังวลเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นมาก แถมเดือนกุมภาพันธ์นี้ก็กินระยะเวลาเต็มสี่สัปดาห์ไม่ขาดไม่เกิน จะผ่อนหรือจะขี้เกียจวิ่งไปสักวันก็หมายความว่าจะต้องวิ่งชดเชยในวันอื่นแทนอยู่ดี
การวางแผนการวิ่งจึงเป็นการฝึกสมองไปในตัวอีกโจทย์หนึ่ง ส่วนการเดินตามแผนนั้นก็เป็นการรบที่น่าประทับใจเพราะแต่ละวันอาจต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ กันไป แต่ระหว่างที่เดินตามแผนการว่ิงไปนั้น ก็ยังต้องออกเดินทางเพื่อค้นหาและเลือกหารองเท้าคู่ใหม่ที่จะมาแทนที่คู่ปัจจุบันที่แม้จะเก่าแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ ตลอดการใช้งาน
ทั้งต้องออกเดินทางเพื่อค้นหาว่ารุ่นไหนบ้างที่มีขายจริง มีขายที่ไหน และต้องสืบค้นจากอินเตอร์เน็ตด้วยว่าลักษณะเฉพาะของแต่ละรุ่นนั้นเป็นอย่างไร หากดูแล้วดีแต่จะมีขายในบ้านเราหรือไม่ ขั้นตอนนี้จึงต้องใช้เวลาหลายวันเพื่อเก็บข้อมูล
ในที่สุดก็มาสรุปอยู่ที่ Nike Zoom Victory+ โดยเข้าใจว่าเป็นรองเท้ารุ่นใหม่ที่เหมาะสำหรับนักวิ่งที่มีประสบการณ์มาแล้วไม่น้อย รู้สึกเอาเองว่าน่าจะช่วยให้การวิ่งครั้งต่อไปเป็นธรรมชาติมากขึ้นได้





จนกระทั่งการวิ่งมาถึงวันพฤหัสบดีที่ 26 ก.พ. แน่ใจได้แล้วว่าเมื่อได้วิ่งตอนเย็นอีกครั้งก็จะสามารถสะสมระยะทางจนถึงหลักหมุดสำคัญที่ 4,000 กิโลเมตรได้เรียบร้อย จึงตัดสินใจว่าบ่ายวันนี้จะออกไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่มาเตรียมไว้ก่อนได้เลย
แต่ระหว่างการลองรองเท้าคู่ใหม่อยู่นั้นก็บังเกิดความรู้สึกแปลกๆ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาการใช้งาน Nike Air Zoom Moire+ วิ่งจะรู้สึกเหมือนมีฟองน้ำห่อหุ้มเท้าทั้งหมดไว้และยังช่วยรองรับแรงกระแทกได้อย่างดี แต่เจ้า Nike Zoom Victory+ ไม่เป็นอย่างนั้น มีความรู้สึกว่ารองเท้าคู่นี้แนบเท้าพอดีและพื้นรองเท้าก็เข้ารูป คงจะเหมาะสำหรับการออกวิ่ง พนักงานขายก็แนะนำว่าเมื่อวิ่งไปสักระยะ เส้น Flywire ก็จะปรับตัวให้กระชับกับรูปเท้าเอง
และเมื่อเทียบกับ Nike Air Zoom Start+ 2009 ที่ดูไว้อีกรุ่นหนึ่งก็เข้าใจไปเองว่าเจ้า Nike Zoom Victory+ นี้น่าจะเหมาะกับตัวเรามากกว่า ถึงเวลาวิ่งอย่างจริงจังแล้ว อย่าไปยึดติดกับรองเท้าแบบเดิมที่คุ้นเคยอยู่เลย บางทีสถิติอาจจะดีขึ้นบ้างก็ได้ แต่ความรู้สึกแปลกๆ นี้ก็กลายมาเป็นความกังวลในเวลาต่อมา
จนกระทั่งการวิ่งในเย็นวันพฤหัสนั้นผ่านไปอย่างน่าภูมิใจ




ข้อความต้อนรับเมื่อสามารถสะสมระยะทางความว่า
4000
Killer Kilometers
Wow. You’ve run the equivalent of 22 daysYou are truly a pillar of the Nike+ community, and we’d seriously kiss your (blistered?) feet if we could. In any case, you’ve just earned an honor bestowed on few. Huge congrats.
ถอดความได้ว่า
4000 กิโลเมตร
ระยะทางที่แสนยากลำบาก
นี่เท่ากับคุณได้วิ่งมานานถึง 22 วันติดต่อกันแล้วคุณคือคนสำคัญอีกคนหนึ่งของชุมชน Nike+ ถ้าเป็นไปได้ พวกเราอยากจะก้มลงจูบเท้า(บวมๆ?)ของคุณ ไม่ว่าอย่างไร คุณสมควรได้รับเกียรติยศที่น้อยคนจะได้รับนี้ ขอแสดงความยินดีอย่างสุดซึ้ง
จากนั้นจึงให้รางวัลกับตัวเองด้วยการหยุดพักในวันรุ่งขึ้นหนึ่งวันเพื่อให้กล้ามเนื้อน่องได้ผ่อนคลายบ้าง แต่ความวิตกกังวลไม่เคยปราณีใคร กลไกอัตโนมัติในจิตใจจึงเลือกวิธีกินเพื่อบำบัดความวิตกกังวลนั้นอีกครั้ง …ไม่น่าชื่นชมเอาเสียเลย
เช้าวันเสาร์จึงต้องการลองรองเท้าคู่ใหม่เสียทันที เพราะอย่างน้อยจะได้รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป
ความรู้สึกแรกก็คือรองเท้าคู่นี้พื้นแข็งกว่าเดิม จากที่เคยเข้าใจว่ารองเท้ารุ่น Zoom คงรองรับแรกกระแทกได้เป็นอย่างดี จึงลืมไปว่ารองเท้าคู่นี้จัดอยู่ในหมวด Lightweight ไม่ใช่หมวด Cushion แต่อย่างใด ทำให้เริ่มเข้าใจแล้วว่าคงต้องเป็นรองเท้ารุ่น Air Zoom กระมังถึงจะรองรับแรงกระแทกได้ดีกว่า
เสียงพื้นรองเท้ากระทบพื้นปูนซิเมนต์ที่วิ่งทุกวันเพ่ิมระดับความกังวลเหมือนกัน จึงต้องพึ่งเสียงเพลงจาก iPod nano ที่ใช้ประกอบกันในชุด Nike+iPod Sport Kit ให้ช่วยกลบเสียงหนักๆ ตันๆ แบบนั้นไว้
ระยะแรกของการวิ่ง ฝ่าเท้าขวาที่บดไปบนพื้นรองเท้ามีอาการเมื่อยล้าอยู่ตลอด ฝ้าเท้าซ้ายไม่ค่อยมีอาการ และด้วยการฝึนฝนที่ผ่านมาให้อดทนกับอาการเหล่านี้ พอล่วงเลยครึ่งทางของแผนการวิ่ง 700 Calories มาพอสมควรอาการดังกล่าวก็หายไป ได้ฝึกมองเวทนาที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปไปในตัว
จนใกล้จะครบตามแผนการวิ่ง อาการเสียดสีที่เอ็นร้อยหวายทั้งสองข้างก็เริ่มแสดงอาการ เมื่อเทียบกับรองเท้าคู่เก่าที่ไม่เคยกัดเลย คู่ใหม่นี้ก็ต้อนรับแขกใหม่เสียแล้ว
หวนคิดถึงสมัยที่ไปฝึกภาคสนามทั้ง รด. ปี 4 และปี 5 ก็ต้องผ่านการเดินด้วยรองเท้าทหารอย่างที่จะกัดจะพองอย่างไรไม่ต้องสนใจ เดินเข้าไปจนกว่าจะถึงเป้าหมายมาแล้วเหมือนกัน

หลังจากนั้นก็มีอาการที่ข้อหัวเข่าตลอดทั้งวัน สงสัยเป็นผลข้างเคียงจากการลงน้ำหนักบนพื้นปูนโดยพื้นรองเท้าไม่สามารดูดซับแรงกระแทกได้หมดจึงเหลือสะท้อนขึ้นมาที่ข้อหัวเข่า อาการเหมือนจะเมื่อยล้าไม่ใช่อาการบาดเจ็บ ตามสังเกตอาการก็พบว่าค่อยๆ น้อยลงไปเรื่อยๆ
วันรุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์และเป็นวันเริ่มต้นเดืิอนมีนาคมของปีนี้ เป็นการเริ่มต้นแผนการวิ่งของเดือนอย่างเป็นทางการ ก่อนวิ่งวันนี้จำเป็นต้องปิดพลาสเตอร์ไปบนแผลพองเสียก่อนเพื่อมิให้การเสียดสีสร้างความเสียหายมากขึ้น อากาศที่ขมุกขมัวทำให้ไม่ร้อนเท่าที่ควร การวิ่งแม้จะยังคงได้ยินเสียงหนักๆ ตันๆ ทุกครั้งที่ก้าวไป แต่อาการอื่นๆ เหมือนจะไม่มีอาการแล้ว ราวกับว่าทั้งรองเท้าและฝ่าเท้าทั้งสองข้างได้ทำความรู้จักมักคุ้นกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อากาศที่ไม่ร้อนและช่วงเวลาที่เหมาะสมทำให้สามารถทำระยะทางได้ถึงสิบกิโลเมตรสำหรับการวิ่งครั้งแรกของเดือนใหม่นี้ได้เรียบร้อย

อาการที่ข้อหัวเข่าอย่างเมื่อวานไม่มีอีกเลย
วันที่สามเริ่มต้นด้วยอาการเมื่อยล้าที่ฝ่าเท้าขวาอีกครั้ง วิ่งไปก็สังเกตไปว่าเป็นเพราะรูปรองเท้าไม่เข้ากันกับเนื้อเท้าหรือเปล่า ก็ไม่เห็นเป็นอย่างนั้นนัก วิ่งไปสักพักก็รู้สึกบรรเทาลงจนสามารถวิ่งได้จนจบ
ส่วนตอนเย็นก็เป็นการวิ่งตามแผนเพื่อสะสมระยะทางไว้ในช่วงแรกเผื่ออาจจะเกิดเหตุใดที่ต้องหยุดวิ่งไปอีก แต่ก็อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย เริ่มวิ่งแรกๆ ก็รู้สึกดีอยู่ คงเป็นเพราะกล้ามเนื้อตื่นตัวเต็มที่หลังจากใช้งานมาทั้งวัน เผลอคิดไปว่าน่าลองเร่งความเร็วขึ้นอีกจึงลองตามนั้น ไม่นานก็ออกอาการเลยคือหมดแรง หมดจนอยากหยุดวิ่งเสียเลย ป้อแป้จนน่าใจหาย แต่เพราะต้องการดำเนินตามแผนการวิ่งให้สำเร็จจึงฝืนวิ่งต่อไปจนสำเร็จ




จากที่เคยคิดว่าหากรองเท้าใหม่คู่นี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่น้ำหนักตัวมากๆ เสียเท่าไหร่ จะลองอีกสักระยะแล้วอาจต้องซื้อคู่ใหม่ที่รับแรงกระแทกได้มากๆ ก็เปลี่ยนเป็นตั้งใจว่าจะใช้รองเท้าคู่สักสองพันกิโลเมตร หากสะสมระยะทางเดือนละสองร้อยกิโลเมตร ก็คงได้เปลี่ยนรองเท้าคู่ที่สามราวๆ ต้นปีหน้าพอดี
แผนการนั้นจะเป็นอย่างไรก็คงต้องติดตามควบคืบหน้าต่อไปอีก เพราะอาการสะท้อนขึ้นมาที่หัวเข่าก็ยังน่ากังวลเหมือนกันว่าหากวิ่งต่อไปโดยไม่มีอะไรดีขึ้น และอาจจะส่งผลเสียต่อข้อหัวเข่าเหมือนกัน แต่ระยะสั้นต้องดูแลแผลพองจากการเสียดสีที่เอ็นร้อยหวายให้หายดีเสียก่อน
และความพยายามมุมานะวิ่งออกกำลังกายตามแผนที่วางไว้ อย่างน้อยก็เป็นการสร้างวินัยให้กันตัวเอง เป็นการฝึกพิจารณาสิ่งที่จะทำ สิ่งที่ควรทำ สิ่งที่ต้องทำ อีกทั้งได้ฝึกพิจารณาสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปตลอดเวลาที่ลงมือทำสิ่งต่างๆ นั้น การฝึกฝนนี้จะไม่มีวันเสร็จจนกว่าดินจะกลบหน้า
ข้อมูลเพิ่มเติม
รุ่น | Nike Air Zoom Moire+ | Nike Zoom Victory+ |
style no: | 314496-011 | 324906-061 |
Profile: | A new fit and feel for runners who like a light weight low profile training shoe. Nike+ capability enhances the overall experience. | For the runner looking for a great lightweight feel on the foot and a fast responsive feel off of the ground. |
Upper: | Seamless inner layer is all about comfort ~ Layer of Clarino is perforated in a strategic pattern provide breathability and support. | New Flywire upper technology creates a great fit in an extremely lightweight package. Open mesh construction for superior breathability and lightweight feel. |
Midsole: | Low profile phylon midsole and large volume zoom air sole unit. Nike+ sensor pocket is located in the arch area to hold the sensor tightly. | Full length Phylon midsole -Zoom air sole in the heel and forefoot for low responsive cushioning. |
Outsole: | BRS 1000 rubber in the heel adds durability and soft blown rubber in the forefoot enhances cushioning and ride. | BRS 1000 carbon rubber outsole in the heel for durability-modified rubber Waffle outsole in the forefoot for great traction and cushioning. |
ซื้อที่ | เซ็นทรัล ลาดพร้าว | เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า |
ราคาเต็ม | 4,200 บาท | 3,900 บาท |
ลดเหลือ | 3,780 บาท | 3,510 บาท |
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง