31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก

ผมมีหลักประจำใจอยู่อย่างหนึ่งว่าจะพยายามชักชวน ให้เพื่อนของผมนั้นเลิกบุหรี่ให้ได้ นั่นไม่ใช่เพราะผมไม่สูบบุหรี่แล้วรำคาญควันของมัน เวลาที่เพื่อนของผมสูบหรอก เพราะคนสูบก็จะพยายามปล่อยควันไปทางอื่น และผมก็พยายามไม่สูดเข้าไป เป็น Win/Win Strategy ที่เกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

นั่นหมายความว่าเพื่อนๆ ของผมน่ารักมากใช่ไหมครับ แล้วทำไมผมจะไม่อยากชวนให้เขาเลิกสูบบุหรี่ให้ได้หล่ะครับ

หลายๆ ครั้งที่ผมพยายามสาธยายโทษและผลกระทบต่างๆ ให้เพื่อนฟัง แต่จริงแล้วมันก็เป็นข้อมูลที่รู้ๆ กันอยู่ แต่ประเด็นที่ผมพยายามยกให้เห็นคงเป็นเรื่องผลกระทบต่อครอบครัวและคนที่รัก มากที่สุดเพราะเป็นเรื่องที่มีน้ำหนักมากกว่าเรื่องอื่นๆ อันนี้ไม่รวมถึงเรื่องประโยชน์ของมันเช่นสูบแล้วโขมยไม่ขึ้นบ้าน สูบแล้วผมไม่หงอก เพราะคงเป็นที่รู้กันอยู่แล้วเช่นกัน

วันนี้เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ผมก็อยากจะให้สื่อที่ผมมีในมือส่งความปรารถนาดีของผมไปให้เพื่อนๆ และท่านผู้อ่านทุกท่านกำหนดแผนการเลิกสูบบุหรี่ให้กันตนเอง แล้วลงมือปฏิบัติให้สำเร็จ แล้วคนที่คุณรักจะภูมิใจในตัวคุณว่าเป็นผู้ที่สามารถเอาชนะใจตัวเองได้อย่างเด็ดเดี่ยว เป็นการเพิ่มการเคารพตัวเองของท่านได้อีกเรื่องหนึ่ง

ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

ต่อไปก็ขอแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ต่างเกี่ยวกับวันสำคัญแห่งโลกเสียหน่อยครับ

ทำไมต้องมีวันงดสูบบุหรี่โลก

มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่มีการประกาศวันสำคัญนี้เพราะเป็นเหมือนการตอกย้ำความล้มเหลวของหลักคิดที่จะให้มนุษย์ทุกคนรักษาสุขภาพตัวเองอย่างยิ่ง ทำไมหรือ เพราะทุกฝ่ายก็รู้ว่าบุหรี่เป็นเครื่องบ่อนทำลายมนุษย์ แล้วทำไมยังปล่อยให้ผลิตอยู่ หลายสิบปีที่ผ่านมาก็มีหลักฐานพิสูจน์ให้เห็นอยู่แล้วมากมาย ที่อเมริกาถึงกับฟ้องร้องกันเป็นค่าเสียหายหลักล้าน ผมสรุปเองว่าอุตสาหกรรมผลิตบุหรี่มีอำนาจเงินมากมาย จึงสามารถควบคุมการตัดสินใจเรื่องนี้ได้

ทำไมเมืองไทยต้องรณรงค์เรื่องนี้

ผมไม่ทราบว่าเพราะเห็นควรด้วยว่าความสูญเสียของผู้สูบนั่นบั่นทอนประเทศ หรือว่าเป็นการง่ายที่จะผันงบประมาณมาใช้ในโครงการที่มีภาพลักษณ์ดี แล้วสังคมก็ไม่เคยรู้ว่ามันถูกใช้ไปกับเรื่องอะไรบ้าง หรือว่ามันสมเหตุสมผลไหมที่ต้องใช้จ่ายในรายการนั้นๆ

ก่อนหน้านี่มีการออกกฏในการควบคุมไม่ให้สูบบุหรี่ในที่ต่างๆ เช่นอาคารที่มีเครื่องปรับอากาศ เช่นโรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร ศูนย์การค้า และโรงพยาบาล แต่ที่ผมประสบกับตัวเองก็คือผู้คนก็จะไปสูบกันในห้องน้ำเพราะไม่มีเครื่องปรับอากาศ หรือใต้ถุนตึกโรงพยาบาลเพราะไม่มีเครื่องปรับอากาศ รวมไปถึงรอบๆ อาคารแม้ว่าจะอยู่ในโรงพยาบาล ที่เราเรียกกันว่าโรงซ่อมสุขภาพนั่นแหละครับ (แม้กระทั้งโรงพยาบาลโรงทรวงอกที่ผมเคยไปใช้บริการ)

เร็วๆ นี้ เพิ่งมีการประกาศให้ทุกพื้นที่ในโรงพยาบาลเป็นเขตปลอดบุหรี่ จะน่ายินดีหรือไม่ก็ต้องคอยดูกัน เพราะผมเชื่อว่าฟ้าจะผ่า คนจะคลอด หรือจะสูบบุหรี่ที่ไหนมันก็ห้ามกันไม่ได้หรอก คอยดูกัน

กฏระเบียบต่างๆ ที่ทางการออกมานั่นผมเห็นว่ามันตั้งอยู่บนหลักคิดที่พิกลพิการอยู่ เพราะดูเหมือนจะเป็นการคุ้มครองผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ใช่ไหมครับ แต่จริงแล้วไม่ใช่ มันเป็นแต่การจัดระเบียบให้ผู้สูบบุหรี่มีความชอบธรรมที่จะสูบในที่ต่างๆ นอกเหนือจากที่ประกาศไว้

ทำไมผมจึงเห็นอย่างนั้น เพราะลองมองดูคร่าวๆ สิครับว่ารอบตัวท่านมีคนสูบบุหรี่สักกี่คน เป็นส่วนน้อยใช่ไหมครับ คนส่วนใหญ่ของประเทศไม่สูบบุหรี่ นั่นหมายความว่ากฏนี้อนุญาตให้คนที่สูบบุหรี่มีสิทธิที่จะยัดเยียดควันบุหรี่ที่ไม่มีอะไรกรองให้คุณ คนสูบบุหรี่มือสองเป็นอันตรายมากกว่าผู้สูบมือหนึ่งตามหลักฐานทางการแพทย์ตามที่เราทราบกันดีใช่ไหมครับ

ที่ถูกต้องแล้วกฏดังกล่าวต้องตั้งอยู่ในหลักคิดที่ว่าคนส่วนใหญ่ไม่สูบบุหรี่ รัฐจึงต้องควบคุมให้สถานที่สาธารณะต่างๆ นั่นปลอดควันบุหรี่ สำหรับผู้ที่ต้องการสูบจริงๆ นั้น รัฐต้องจัดหาสถานที่ปิดมิดชิดที่มีเครื่องบำบัดควันก่อนปล่อยสู่ภายนอกให้กับเขา อาจจะมีอยู่มากแห่งหน่อยในระยะแรก แต่ต้องลดจำนวนลงเมื่อเวลาผ่านไป และมีการรณรงค์อย่างจริงจัง และห้ามเปิดกระจกรถหากต้องการสูบบุหรี่ขณะขับ ส่วนการรณรงค์นอกจากเมาไม่ขับแล้ว ก็น่าจะรวมไปถึงขับไม่สูบอีกด้วย

นี่ไม่ได้เกิดจากรอยหยักในสมองของผมหรอกครับ ผมเห็นอาคารแบบนี้เมื่อครั้งที่มีโอกาสได้ไปฝึกงานในโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี มันเป็นข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในโรงกลั่น เพราะน้ำมันและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ได้จากการกลั่นนั้นเป็นสารไวไฟ พนักงานทุกคุณจะไม่สูบบุหรี่โดยทั้วไป แต่เมื่อถึงเวลาพักก็สามารถมาใช้บริการห้องสูบบุรี่ที่มีบริการเครื่องดื่มอยู่ด้วย จะขาดก็เพียงไม่มีเครื่องบำบัดอากาศเท่านั้นเอง ซึ่งนั้นก็กว่าสิบปีมาแล้วครับ ปัจจุบันอาจจะมีแล้วก็ได้

ต่อมาเมื่อครั้งได้ทำงานในโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ก็จะพบว่าทางโรงงานก็จะจัดสถาที่สูบบุหรี่ไว้เป็นจุดๆ โดยทั่วไป ไม่อนุญาติให้สูบที่ไหนก็ได้ แต่จุดดังกล่าวผมก็เห็นว่าไม่เป็นผลดีต่อผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ เพราะมักจะอยู่บริเวณทางเข้าออกอาคารซึ่งพนักงานต้องผ่านไปมา บางครั้งก็ตั้งอยู่เหนือลม ใครนั่งพักอยู่ท้ายลมห่างไปสักหน่อยก็ยังได้รับควันอยู่ดี

จึงอยากเสนอให้สถานประกอบการต่างๆ จัดหาห้องสูบบุหรี่แบบที่ว่านี้ไว้บริการผู้ที่ต้องการไว้เป็นการเฉพาะด้วย จะเป็นการส่งเสริมสุขภาพพนักงานส่วนใหญ่ได้ดีกว่า

ผลพลอยได้ที่ตามมาก็คือจะไม่มีปัญหา 5ส เรื่องที่พบก้นบุหรี่อยู่ตามกระถางต้นไม้ต่างๆ นอกเหนือไปจากกระถางทรายที่จัดไว้ในโรงงาน และก็จะไม่พบก้นบุหรี่อยู่ถูกเหยียบให้ดับอยู่ตามที่สาธารณะ หรือแม้แต่ภาพของคนขับรถที่สูบบุหรี่แล้วเปิดกระจกมาเขี่ยนอกตัวรถ ทั้งๆ ที่ในรถก็มีที่เขี่ยอยู่แล้ว

ทั้งหมดทั้งปวงนั้นผมไม่ได้แสดงตนรังเกียจคนที่สูบบุหรี่น่ะครับ เพียงแต่ต้องการปกป้องสิทธิที่จะได้รับอากาศที่ปราศจากควันบุหรี่เท่านั้น และที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ผมชอบที่จะชักชวนให้เพื่อนเลิกสูบเสียจะดีกว่า