ราชินีทรงขอทุกฝ่าย ช่วยแก้ไฟใต้

ทรงห่วงคนไทยผู้บริสุทธิ์ 3 แสนคน เดือดร้อน-ทำมาหากินไม่ได้ ทรงวิตกสถานการณ์ฆ่ารายวัน คนพวกนี้ ก็มีสิทธิที่จะมีชีวิต อย่างสงบสุข เหมือนกัน

พระราชินีทรงวิงวอนให้ทุกฝ่ายแสดงพลัง ช่วยผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในภาคใต้ เพื่อให้คนไทย 3 แสนคนในพื้นที่ สามารถทำมาหากินได้ และดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสุจริต ทรงวิตกสถานการณ์ฆ่ารายวัน ทรงย้ำจะปล่อยให้คนไทยถูกฆ่าทุกวันไม่ได้

เวลา 17.05 น. วันนี้ (16 พ.ย.) สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ลง ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่าง ๆ ทั้งคณะรัฐบาล ราชการ องค์กร มูลนิธิ สื่อมวลชน นิสิต นักศึกษา นักเรียน จำนวน 930 คน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท โดยมีพระราชกระแสทรงเล่าถึงพระราชกรณียกิจและทุกข์สุขของราษฎรที่ทรงรับทราบด้วยพระองค์เอง ในระยะเวลา 2 เดือน ขณะเสด็จฯ ทรงเยี่ยมราษฎรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างที่เสด็จฯ แปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเล่าถึงพระราชกรณียกิจในการติดตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อเสด็จฯ ทรงเยี่ยมราษฎรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2502 ตลอดจนการดำเนินโครงการพระราชดำริต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ทั้งด้านการเกษตร ประมง และสิ่งแวดล้อม

จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเล่าถึงการเสด็จพระราชดำเนิน ทรงเยี่ยมราษฎรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในปี 2547 ว่า ต้องทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นเวลา 2 เดือน คือช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. ทั้งที่ผ่านมาจะทรงแปรพระราชฐานเพียง 1 เดือน เนื่องจากปีนี้เกิดเหตุร้ายแรงต่อพสกนิกรในภาคใต้อย่างต่อเนื่อง จึงไม่สามารถทรงกลับมาได้ ต้องทรงอยู่เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับพสกนิกร

โดยในระหว่างนั้น ทรงรับทราบข่าวร้ายที่เป็นการฆ่ารายวัน ทำให้ผู้คนทุกข์โศกมาก พระสงฆ์ ยังไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่ารวมแล้วกว่า 300 คน ซึ่งคนเหล่านี้ก็เป็นคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น แต่เดิมก็อยู่กันอย่างสันติ ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่ขณะนี้สถานการณ์ร้ายแรงถึงขั้นที่ว่า ใครจะฆ่าใครก็ได้ กฎหมายมีอยู่แต่ก็ใช้การไม่ได้ น่ากลัวเหลือเกิน คนอยู่ไม่ได้ ไม่รู้จะอยู่ที่ไหน มีคนไทยอยู่กว่า 3 แสนคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะปล่อยให้ถูกฆ่าตายทุกวันคงไม่ได้

ข้าพเจ้ากลับมาครั้งนี้ ก็เพื่อมาเล่าความทุกข์ร้อนของประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ช่วยกันคิดแก้ไขว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยชีวิตคนไทยกว่า 3 แสนคนนี้ให้สามารถทำมาหากินได้ มีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ และใช้ชีวิตที่สุจริต อยากพูดกับนักสิทธิมนุษยชนว่า คนพวกนี้ก็มีสิทธิที่จะมีชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนกัน” พระองค์ตรัสตอนหนึ่ง

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ยังทรงวิงวอนให้คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ทุกคน ช่วยกันคิดอ่านหาทางว่า จะทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหานี้ และให้ช่วยรัฐบาลคิดอ่าน ไม่ควรไปคิดว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเท่านั้น เพราะทุกคนต้องตอบแทนคุณของแผ่นดิน

เราเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร จะเป็นองค์กรมวลชนไหน รวมทั้งกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน ขอให้แสดงพลัง แสดงความไม่พอใจที่ผู้บริสุทธิ์ต้องมาถูกฆ่าโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ซึ่งคนที่ก่อเหตุไม่ใช่คนมุสลิมที่ข้าพเจ้ารู้จักมา 30 ปี เป็นใครมาจากที่ไหนก็ไม่รู้” พระองค์ตรัสตอนหนึ่ง

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเล่าอีกว่า ตอนวันเกิด ได้รับเงินบริจาคมาจำนวนหนึ่ง จึงนำไปซื้อที่ดินที่ จ.นราธิวาส มา 600 ไร่ ตั้งใจจะให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ที่ถูกฆ่าตาย 300 ครอบครัวไปอยู่รวมกันที่นั่น แต่เดิมคิดว่าจะมอบเป็นเงิน แต่คิดว่าให้เป็นบ้านและที่ทำกินจะยั่งยืนกว่า

นอกจากนั้น ยังทรงขอให้นาวิกโยธินช่วยไปฝึกชาวบ้าน จะได้สามารถป้องกันตัวเองได้ และขณะนี้ชาวบ้านก็หวังพึ่งพิงทหารเป็นอย่างมาก ได้ขอร้องให้มาบอกนายกฯ ว่าไม่ต้องถอนทหารออกไป เพราะถ้าทหารอยู่ พวกเขาก็จะมีชีวิตอยู่

ข้าพเจ้าก็จะวิงวอนขอร้องท่านทั้งหลาย ให้ร่วมกัน ทำอย่างไรก็ไม่ขอพูดละเอียด จะขอให้แสดงออกถึงความห่วงใย ประชาชนคนไทย ถึงแม้จะอยู่ไกลถึงภาคใต้ ที่ถูกรังแก เอาชีวิตอย่างน่าสงสารที่สุด ข้าพเจ้าก็เลยคิดถึงท่านทั้งหลาย ที่เป็นผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้แทน องค์กรอิสระ ผู้แทนมูลนิธิ สมาคม สโมสร สภา ลูกเสือชาวบ้าน ไทยอาสาป้องกันชาติและสื่อมวลชน ช่วยกันคิดอ่านหาทางยุติการฆ่าฟันรายวัน เพราะเดี๋ยวนี้ เมื่อก่อนตอนข้าพเจ้ายังอยู่ แต่เดี๋ยวนี้เมื่อข้าพเจ้ากลับมาแล้ว ก็เป็นวันละ 8 คน

ท่านทั้งหลายก็น่าจะช่วยกัน และช่วยรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ช่วยกันคิดช่วยกันสะสางเหตุการณ์ฆ่ากัน อย่างนี้ ข้าพเจ้าไม่ได้บอกว่าให้วิ่งถืออาวุธลงไปช่วย แต่ให้แสดงพลังแสดงความไม่พอใจ แต่ข้าพเจ้าคิดว่าคนไทยทุกคน ไม่ใช่มอบให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว

ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา จนถึงบัดนี้ มีผู้เสียชีวิตที่ถูกฆ่ารายวันเสียชีวิตไปกว่า 300 คน คนที่บริสุทธิ์ ตายทุกวัน ซึ่งข้าพเจ้าเอง ก็หมดสติปัญญา ต้องขอร้องคณะรัฐบาลแก้ปัญหา


ที่มา นสพ. กรุงเทพธุรกิจ 17 พ.ย. 2547