ครบ 2 ปีกับไนกี้พลัส

เหตุการณ์บ้างเมืองในวันครบรอบสองปีกับในกี้พลัสปีนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก ต้องติดตามข้อมูลข่าวสารจนร่างกายอ่อนเพลียและแทบจะลืมไปเลยว่าต้องลุกขึ้นมาวิ่งในวันครบรอบนี้ให้ได้ แม้ร่างกายจะเหนื่อยอ่อนและสภาพอากาศที่ร้อนกว่าเช้าตรู่ไหนๆ ที่ผ่านมา ก็ยังสามารถประคองให้วิ่งจนจบแผนการวิ่งได้เป็นที่เรียบร้อย

ภารกิจต่อไปคือรวบรวมเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นตลอดปีที่สองนี้มาบันทึกไว้ที่นี่อีกครั้ง เป็นจดหมายเหตุของชีวิตที่บันทึกด้วยความตั้งใจและความท้อแท้ ความยินดีและความเจ็บปวด ไปจนถึง ความรื่นรมย์และความทุกข์ระทม

RunAway by SwitchEasy

หลังจากครบรอบหนึ่งปีกับไนกี้พลัสไปไม่กี่วัน ก็ถึงที่สุดของความจำเป็นที่ต้องจัดการกับปัญหาการรับส่งข้อมูลของตัวเซนเซอร์ที่รองเท้ามายัง iPod nano เพราะพบว่าหลายครั้งที่วิ่งไปแต่ข้อมูลความเร็วที่วัดได้กลับไม่ปรากฏ ผลก็คือจากที่วิ่งได้อย่างน้อยชั่วโมงละหกกิโลเมตรกลับได้ระยะทางเพียงครึ่งเดียว สมมติฐานข้อเกือบสุดท้ายก็คือเซนเซอร์ในรองเท้าถูกใช้งานจนแบตเตอรี่หมดแล้วหรือเปล่า แม้จะเพิ่งผ่านไปปีเดียว เมื่อเทียบกับข้อมูลจำเพาะของตัวเซนเซอร์ที่สามารถทำงานได้นานถึง 1,000 ชั่วโมง แต่ระยะเวลารวมของการวิ่งเพิ่งผ่านไปราวๆ 300 กว่าชั่วโมงเท่านั้น

การทดสอบจึงเลือกที่จะเปลี่ยนเซนเซอร์ชุดใหม่และสังเกตผลอีกครั้ง ได้ความว่าดีขึ้นเล็กน้อยแต่อีกไม่นานก็พบปัญหาเช่นเดิมอีก ตัวแปรอื่นอย่างตัว iPod nano เองก็มีเพียง firmware ภายในที่มีการเปลี่ยนแปลง และสมมติฐานนี้ก็ถูกทดสอบก่อนไปแล้วว่ามิใช่สาเหตุของปัญหา ก็เหลือเพียงรองเท้าเท่านั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทดสอบอย่างไร การเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกนัก ประกอบกันช่วงเวลาระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคมมีอาการข้อเท้า ข้อนิ้วเท้าและกล้ามเนื้อเท้าอักเสบเนื่องมาจากระดับกรดยูริกในเลือดสูงหรือที่เรียกง่ายว่าโรคเกาต์กำเริบ จึงทำให้ไม่ค่อยได้วิ่งมากนัก ทำให้ต้องพักเรื่องนี้ไว้ก่อน

ระหว่างนั้นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมมีคำแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่จาก SwitchEasy ชื่อ RunAway ที่เว็บ SiamPod แรกๆ ก็ไม่ได้ใส่ในมากนัก แต่สักพักก็คิดไว้ว่าแทนที่จะต้องทดลองเปลี่ยนรองเท้า ก็ทดลองเอาตัวเซนเซอร์ออกมาไว้ข้างนอกก็น่าจะได้ข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจ และที่สำคัญที่สุดอุปกรณ์ตัวนี้ราคาถูกว่าซื้อรองเท้าใหม่ราวๆ สิบเท่าตัวกระนั้นเลย

Image

ทันทีที่ทำการทดลองก็เห็นผลความแตกต่างทันที ข้อมูลความเร็วสามารถวัดได้เป็นปกติอีกครั้ง หลังการทดลองอีกสองวันก็เลือกเอาเซนเซอร์ชุดแรกมาใช้งานร่วมกับ SwitchEasy อีกครั้งก็พบว่าสามารถทำงานได้เป็นปกติ น่าจะสรุปได้ว่าปัญหาการอ่านความเร็วจากเซนเซอร์ได้ไม่ตรงอย่างที่ควรจะเป็นนั้นมีสาเหตุมาจากรองเท้าวิ่งคู่เก่าคู่นี้นี่เอง

Image

Image

เริ่มต้นเดือนสิงหาคมด้วย Nike+iPod Sport Kit ชุดแรกต่อไป เจ้าชุดใหม่เก็บไว้ใช้ในอนาคตได้ จนกระทั่งกลางเดือนธันวาคม แบตเตอรี่ในตัวเซนเซอร์ชุดแรกที่รองเท้าก็หมดลงอย่างเป็นทางการ หลังจากการใช้งานผ่านไปราวๆ 400 ชั่วโมง ก็ไม่ยอมส่งสัญญาณออกมากอีก ดีที่มีเซนเซอร์อีกชุดสำรองอยู่ก็สามารถทำมาใช้งานต่อได้ทันที

08.31.08 The Human Race 10K

Image

ช่วงปลายเดือนเมษายนอีกนั่นเองที่ได้รับอีเมล์เชิญให้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ของชาว Nike+ ชื่อว่า The Human Race 10K โดยในวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2008 ผู้เข้าร่วมแข่งขันนี้จากทุกมุมโลกจะร่วมกันวิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตร (ตามเวลาในท้องที่ ณ ถิ่นพำนักของตัวเอง) และวัดกันว่าใครจะใช้เวลาน้อยที่สุด

Image

ดีที่อาการบาดเจ็บจากโรคเกาต์กำเริบค่อยๆ ดีขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคม การวางแผนฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขันครั้งนี้จึงมีขึ้น จากน้อยไปหามากและไม่หักโหมจนเกินไปเพื่อจะได้ไม่มีอุบัติเหตุอะไรจนเข้าร่วมการแข่งขันไม่ได้ …ก่อนการแข่งขันไม่กี่วันยังมีโอกาสไปร่วมการต่อสู้ภาคประชาชนเพื่อประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศอีกด้วย… และผลการวิ่งในวันแข่งขันสามารถทำระยะทางได้ไกลที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกด้วย การวิ่งอย่างมีความสุขก็ให้ผลดีอย่างนี้นี่เอง

*** สามารถคลิ้กที่รูปแต่ละรูปเพื่อดูรูปใหญ่ ***

Image Image
Image

ไม่เพียงเท่านั้น คณะนักวิ่งชาวไทยยังเตรียมการแข่งขันคู่ขนานสำหรับคนไทยเท่านั้นไว้อีกด้วย งานนี้วัดกันที่ระยะทาง

Image Image

ผลการวิ่งอย่างเป็นทางการทาง Nike+ จะรวบรวมหลังจากวันงานอีกสามวันเพราะต้องรอให้ผู้วิ่งจากทุกมุมโลกวิ่งเสร็จตามเวลาในประเทศตัวเองและส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบกันจนครบ และยังสามารถเลือกดูสถิติรวมทั้งโลกและสถิติเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นได้

Image

Image Image

ส่วนเบื้องหลังความสำเร็จในการวิ่งครั้งนี้ก็คือเพลงที่ใช้ฟังประกอบการวิ่ง

Image

สถิติการวิ่งครั้งนี้จะยังคงอยู่ต่อไปเพราะไม่รู้ว่าจะสามารถวิ่งได้ไกลขนาดนี้ได้อีกเมื่อไหร่

ก่อนจะครบ 2 ปีกับไนกี้พลัส

สถิติที่สะสมไว้รายทางของปีที่สองมีวันเวลาที่น่าสนใจดังนี้

เมื่อสามารถวิ่งได้ครบ 400 และ 500 ครั้ง

Image Image

เมื่อสามารถวิ่งได้ครบ 2,500KM, 3,000KM, 3,500KM และ 4,000KM แถมวันที่วิ่งผ่าน 3,000KM เป็นวันเดียวกับที่เข้าร่วมงาน 08.31.08 The Human Race 10K ด้วย

Image Image
Image Image

ก่อนที่จะถึงวันครบรอบสองปีก็มีภารกิจพิเศษในการสะสมระยะทางจนครบ 4000KM และการเลือกหารองเท้าวิ่งคู่ใหม่ ในการวิ่งด้วยรองเท้าคู่ใหม่ที่บรรจุเซนเซอร์ของ Nike+iPod Sport Kit ไว้ในรองเท้า แม้จะเป็นรองเท้าคู่ใหม่ แต่ก็สังเกตได้ว่าจะมีช่วงหนึ่งของการวิ่งมีความเร็วตกลงอย่างผิดสังเกต

ก่อนวันครบรองหนึ่งวันพอดีจึงเปลี่ยนเอาเซนเซอร์ในรองเท้ามาติดตั้งที่เชือกผูกรองเท้าข้างซ้ายด้วย RunAway by SwitchEasy อีกครั้งหนึ่ง และสามารถวิ่งได้ถึง 1,000 แคลอรี่เป็นครั้งแรกของปีพ.ศ. 2552 นี้

Image

เมื่อครบ 2 ปีกับไนกี้พลัส

ในวันจันทร์ที่ 13 เมษายน 2552 วันสงกรานต์ของไทยเป็นวันครบรอบสองปีกับไนกี้พลัสอย่างเป็นทางการ สถิติทั้งของจนถึงวันนี้มีดังนี้

วิ่งไปทั้งหมด 556 ครั้ง รวมเป็นระยะทาง 4,235.65 กิโลเมตร ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 8 นาที 13 วินาทีต่อกิโลเมตร

Image Image
Image Image

สถิติส่วนตัวที่สามารถทำได้ดีที่สุดมีดังนี้ ทำระยะทางได้ไกลที่สุด 11.21 กิโลเมตร ความเร็วที่ดีที่สุดในการทำระยะทางได้ 1 ไมล์อยู่ที่ 8 นาที 23 วินาที ความเร็วที่ดีที่สุดในการทำระยะทางได้ 5 กิโลเมตรอยู่ที่ 27 นาที 7 วินาที ความเร็วที่ดีที่สุดในการทำระยะทางได้ 10 กิโลเมตรอยู่ที่ 55 นาที 33 วินาที สถิติทั้งสามนี้ยังคงเป็นสถิติเดิมทั้งแต่ปีก่อน

ส่วนเหรียญรางวัลนี้จาก Goals ได้เพิ่มมาหนึ่งเหรียญ ถ้วยรางวัลจากการเข้าร่วม Challenges มาเพิ่มมากอีกสี่ถ้วย ได้เข้าร่วม Events พิเศษอีกหนึ่งงานคือ The Human Race 10K ส่วน Milestones สำคัญที่ผ่านมาได้อีกครั้งก็คือ 4000KM

Image

การแข่งขันที่เคยเข้าร่วมผ่านไปแล้ว 58 รายการ การแข่งขันที่กำลังแข่งกันอยู่ขณะนี้มี 5 รายการ

Image Image

สถิติใน Leader Board นอกจากจะแสดงว่ายังคงรักษาลำดับที่ 1 ของประเทศไทยไว้ได้ ยังบอกอีกด้วยว่าวิ่งได้แล้วทั้งหมด 580 ชั่วโมง 40 นาที 7 วินาที

Image Image

ส่วน Leader Board รวมทุกคนบนโลกที่วิ่งด้วยกันเป็นดังนี้

Image Image

ที่น่าผิดหวังก็คือยังไม่สามารถลดน้ำหนักลงไปให้ต่ำกว่าปีที่แล้ว แต่หากคาดหวังเพียงตัวเลขน้ำหนักตัวอย่างเดียวก็คงถึงกับท้อแท้สิ้นหวังเป็นแน่ แต่กิจกรรมนี้ให้อะไรมากกว่านั้น ประโยชน์สำคัญเรื่องหนึ่งก็คือทำให้สามารถออกกำลังกายต่อเนื่องถึงสองปีได้ อย่างที่คุณหมอเฉก ธนะสิริ ท่านสอนไว้ว่า “อยากมีกำลังต้องออกกำลัง”

เรื่องของสุขภาพคงไม่มีวันหยุดได้ ต้องดูแลกันไปเรื่อยๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องทุกข์ระทมกับการรักษาตัวในบั้นปลาย


ข้อมูลเพิ่มเติม