ครบ 3 ปีกับไนกี้พลัส

การลุกขึ้นออกวิ่งในยามเช้านั้นว่ายากแล้ว การบังคับตัวเองให้เริ่มเขียนสรุปสิ่งที่ผ่านมาในรอบปีดูเหมือนจะยากยิ่งกว่าเสียอีก สถานการณ์สุขภาพในวันครบรอบสามปีดูไม่ค่อยดีเสียเท่าไหร่ หลังจากตัวเลขปฏิทินเดินหน้าไปอีกหนึ่งปี ยังคงมีอาการกำเริบของโรคประจำตัวอยู่เนืองๆ เหมือนเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อดูว่ากินอะไรเข้าไปแล้วจะส่งผลต่อสุขภาพตัวเองอย่างไร

จากนั้นก็รักษาอาการต่างๆ ด้วยยาเคมี รู้ทั้งรู้ว่ายาเหล่านั้นมีผลโดยตรงทันทีต่อสุขภาพและประสิทธิภาพของตับ ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งรู้สึกว่ายาเหล่านั้นชักจะช่วยอะไรไม่ได้อีก หากปล่อยไว้เนิ่นนานต่อไปคงจะไม่ดี

ย้อนกลับไปดูการเปลี่ยนแปลงที่ต่อเนื่องมาจากวันครบรอบนี้เมื่อปีที่แล้ว มีความพยายามครั้งใหม่ในการรักษาสุขภาพตามแนวทางอื่นนอกกระแสหลัก ไม่นานก็ค้นพบแนวทางการขับนิ่วในถุงน้ำดีด้วยวิถีทางธรรมชาติเพื่อเปิดทางให้ตับทำงานได้ดีขึ้น ผลที่จะได้รับตามมาจากนั้นก็คืออวัยวะส่วนต่างๆ ก็น่าจะทำงานเข้าที่เข้าทางมากขึ้นตามไปด้วย ตัดสินใจสั่งตำรามาจาก Amazon.com ในต้นเดือนกรกฏาคม เหมือนจะเป็นใจ หนังสือมาถึงภายในสัปดาห์เดียว รีบอ่านให้เข้าใจทั้งเล่มโดยพลัน


The Amazing Liver & Gallbladder Flush
โดย
Andreas Moritz

สิ่งที่ต้องเตรียมต่อมาก็คือวัตถุดิบที่ประกอบการขับนิ่วล้างพิษตามโปรแกรม ดีที่หาซื้อได้ไม่ยากเย็นนัก โปรแกรมครั้งแรกเริ่มขึ้นทันทีราวครึ่งหลังของเดือนต่อมาทันที ผลที่ได้ก็สามารถขับนิ่วออกมาได้ตามที่ตำราอธิบายไว้ วางแผนต่อไปว่าจะเดินแนวทางนี้อีก 8 – 12 ครั้งจนกว่านิ่วจะหมด จนมาถึงโปรแกรมครั้งที่สามในเดือนตุลาคม ตั้งใจเขียนหลักการ แนวทางปฏิบัติและจดบันทึกอาการต่างๆ คร่าวๆ ไว้เป็น blog ด้วย เพื่อเผยแพร่กับผู้สนใจต่อไป

และได้ทำตามโปรแกรมนี้ติดต่อกันมาเดือนละครั้งจนได้ถึง 9 ครั้งแล้วในวันนี้ ครั้งต่อไปได้วางแผนในตารางส่วนตัวไว้แล้วเช่นกัน

ผลพลอยได้จากการทำโปรแกรมนี้ก็คือน้ำหนักตัวที่ทยอยลดลงจากที่เคยหยุดนิ่งอย่างยาวนานอยู่ที่ 88 กิโลกรัมจนท้อใจว่าจะไม่สามารถลดไปจากนี้ได้อีก ล่าสุดน้ำหนักลงมาอยู่ที่ 82.5 กิโลกรัมแล้ว แต่ก็อยู่ระดับนี้มาสองสามเดือนแล้วอีกเช่นกัน

จริงแล้วในตำราบอกแนวทางการประพฤติปฏิบัติตัวเพื่อไม่ให้นิ่วในถุงน้ำดีเกิดขึ้นอีกหลังจากเข้าโปรแกรม แต่ก็ไม่สามารถทำตามได้ทุกอย่าง จึงยังพบว่าในการขับนิ่วครั้งต่อไปยังคงมีออกมาอยู่อีก

นอกจากนี้หลังอาการเกาต์กำเริบในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้คิดจริงจังที่จะหันเข้าทางแนวทางธรรมชาติบำบัด แม้อาการเจ็บปวดจะไม่ได้หายเร็วดังใจ แต่ก็หวังว่าภาพรวมของสุขภาพทั้งหมดจะดีขึ้นจนไม่มีอาการเจ็บปวดอีก การบรรเทาอาการแบบธรรมชาติบำบัดก็เป็นส่วนหนึ่ง หลังจากที่ลงมือศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากตำรับตำราทั้งที่มีอยู่แล้วและที่ต้องเลือกซื้อมาเพิ่มเติม

แต่ก็ใช่ว่าจะทิ้งยาเคมีได้ทั้งหมด ล่าสุดหลังจากวันครบรอบปีที่สามของไนกี้พลัส อารามย่ามใจที่ฝ่าฝืนข้อห้ามในรายการอาหาร จากนั้นไม่นานอาการที่ฝ่าเท้า ข้อนิ้วหัวแม่เท้าและข้อเท้าก็กำเริบเป็นแพ็คเกจใหญ่ จนต้องใช้บริการยาเคมีคู่ไปกับธรรมชาติบำบัดอื่นๆ เมื่ออาการแทบจะหายไปหมดแล้วก็จะรีบหยุดใช้ยาเคมีและเดินหน้าแนวทางธรรมชาติเป็นหลักต่อไป

รางวัลรายทาง

หลังจากวิ่งครบ 4,000 กิโลเมตรและครบสองปีไปไม่นาน ก็สะสมจำนวนการวิ่งได้ครบ 600 ครั้งในตอนกลางปี และสะสมได้ครบ 700 ครั้งในช่วงสิ้นปี

29 มิถุนายน 2552 – 600 runs

 

* click ที่รูปเพื่อดูภาพเต็มขนาด

25 ธันวาคม 2552 – 700 runs

 

 

 

จากนั้นไม่นานแบตเตอรี่ในตัว Nike+ Sensor ที่รองเท้าก็หมด ได้เวลาสั่งซื้อตัวเซนเซอร์เปล่าๆ มาใช้หลังจากที่ตรวจสอบจากร้านค้าแล้วว่าไม่มีสินค้า และการวิ่งก็เริ่มต้นใหม่ทันทีอีกครั้งในวันเริ่มปีใหม่ของปีนี้

เว็บ Nike+ ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของเว็บ NikeRunning เมื่อราวกลางเดือนตุลาคม เห็นได้ว่าหน้าตาของเว็บได้รับการปรับปรุงใหม่ราวกับให้เหมาะสมกับขนาดของจอคอมพิวเตอร์ในตลาดที่มีทิศทางใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ

ปลายปียังได้ทำสรุปให้กับนักวิ่งได้เห็นสถิติที่ทำได้ตลอดทั้งปี 2552 อย่างนี้อีกด้วย


นอกจากนักวิ่งจะสามารถเขียนบันทึกย่อลงในการวิ่งแต่ละวันแล้วยังสามารถบันทึกความรู้สึกและสภาพเส้นทางที่วิ่งไปได้อีกด้วย ข้อมูลที่เหลือเป็นการสรุปโดยระบบเอง ตั้งแต่วิ่งประจำตอน ‘เช้า’ และวิ่งสม่ำเสมอในวัน ‘อาทิตย์’ ความเร็วของจังหวะก้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 8 นาที 1 วินาทีต่อกิโลเมตร สะสมระยะทางตลอดทั้งปีได้ถึง 1,708 กิโลเมตร เทียบเท่าระยะทางจากนิวยอร์คไปถึงลอนดอน และยังเผาผลาญพลังงานไปมากถึง 153,704 แคลอรี่ เป็นพลังงานที่มากพอสำหรับให้ iPod เล่นเพลงติดต่อกันได้นานถึง 40 วัน

แต่ระบบยังคงมีปัญหาเรื่องการตั้งเป้าหมายอยู่ จากที่ปกติแล้วจะตั้งเป้าหมายระยะทางการวิ่งไว้ประมาณเดือนละ 150 กิโลเมตร แต่วิ่งไปแล้วระบบไม่ยอมนับรวมเข้าไปให้ครบ จะลบเป้าหมายนั้นและตั้งใหม่ก็จะได้เป้าหมายที่มีปัญหาเดิมกลับมาอีก กว่าจะใช้งานได้อีกครั้งก็เมื่อเร็วๆ นี้เอง จึงได้ตั้งเป้าหมายระยะทางอีกครั้งในการกลับมาวิ่งครั้งล่าสุดตอนต้นเดือนนี้

ช่วงต้นปีนี้ก็มาถึงจุดสำคัญอีกสองครั้งนั่นคือ

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2553 สามารถเผาผลาญพลังงานทั้งหมดจากการวิ่ง​ Nike+ ไปได้ถึง 500,000 แคลอรี่ และวันที่ 2 เมษายน 2553 นี้เองที่สามารถวิ่งได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 800 ชั่วโมงแล้ว

 

the Human Race 10K 2010

งานวิ่งเพื่อมนุษยชาติเมื่อปีที่แล้วนั่นทราบล่วงหน้าตั้งหลายเดือน มาปีนี้ไม่เห็นวี่แววมาจะมีขึ้นอีกหรือไม่เมื่อไหร่ ไม่นานที่คิดถึงก็มีอีเมล์ส่งมาถึงในวันที่ 9 กันยายน 2552 (090909) ว่างานวิ่งสำหรับมนุษยชาติของปีนี้ได้กำหนดวันเรียบร้อยแล้วเป็นวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม 2552 งานนี้ไม่พลาดแน่นอน


หลังจากเตรียมตัวมาอย่างดีทั้งที่เพิ่งฟื้นตัวจากอาการเกาต์กำเริบ การวางแผนฝึกซ้อมเป็นเรื่องสำคัญมากตลอดระยะเวลาก่อนการแข่งขัน เมื่อถึงวันจริง ความพร้อมก็มาถึงระดับสูงสุด ทำให้สามารถวิ่งสะสมระยะทางได้ถึง 12 กิโลเมตรเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ผลการแข่งขันจะยังไม่นิ่งวันทันทีเพราะต้องรอให้นักวิ่งทั่วโลกวิ่งในสถานที่ของตัวเองจนเสร็จ ลำดับการวิ่งบนเว็บจึงเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งตัดสินใจเป็นที่สุดว่าของเอาสถิติที่ระบบประมวลเสร็จแล้วในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2552 เป็นที่สุดก็แล้วกัน สรุปได้ดังนี้

วิ่งอยู่ในลำดับที่ 15 ของประเทศไทย ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 18 นาที 41 วินาที สำหรับระยะทาง 10 กิโลเมตร ส่วนตัวเลข 3625 นั้นเป็นลำดับใน Challenge ที่เปิดคู่ขนานไปกับการแข่งขันจริง


สถิติของ Top 3 ของประเทศและเมือง จนถึง Top 5 ของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงของนักวิ่งทั่วโลกและนักวิ่งที่เข้าร่วมในหัวเมืองสำคัญที่จัดการแข่งขันก็รวบรวมไว้เช่นกัน


หากเทียบกับนักวิ่งทั้งหมดที่เข้าร่วมจะอยู่ที่ลำดับ 18,495

 

ต่อมาเป็นลำดับของนักวิ่งที่เข้าร่วมในหัวเมืองที่เป็นจุดรวมการวิ่งที่ Nike จัดการแข่งขัน


หากจะจัดลำดับจากเวลาเฉลี่ยของแต่ละประเทศจะได้ผลอย่างนี้ ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 90

 

นี่เป็น Challenge คู่ขนานของการวิ่งครั้งนี้

 

ผู้ช่วยสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยในการแข่งกันคือเพลงที่ใช้ประกอบการวิ่ง โดยเพลงหลักยังเป็นรายการจาก PODRunner Podcast ตามมาด้วยเพลงของ MISIA, Mika Nakashima และ Mr.Children เหมือนเคย แต่ละเพลงต่างช่วยเสริมและเพิ่มพลังให้สามารถวิ่งต่อไปได้ ถึงขนาดที่จะวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ก็สามารถทำได้

ครบสามปีกับไนกี้พลัส

เกือบจะพลาดการวิ่งในวันนี้เพราะเผลอนึกไปว่าวันครบรอบเป็นอีกสองวันข้างหน้า แต่เมื่อออกวิ่งแล้วก็ทำให้ดีที่สุด


สถิติของการวิ่งทั้งหมด การวิ่งในสัปดาห์นี้ การวิ่งในเดือนนี้ เป็นอย่างนี้

 

เมื่อดูการวิ่งในภาพรวมแบบเดือนต่อเดือนจากวันครบรอบสองปีจนถึงวันครบรอบสามปีได้ดังนี้

 

ระบบเว็บไนกี้พลัสใหม่นี้มีการสรุปสถิติการวิ่งทั้งหมดไว้ด้วยอย่างนี้


ได้รับเหรียญรางวัลจากการวิ่งได้ตาม Goal ไปแล้ว 18 เหรียญ ได้รับถ้วยรางวัลจากการเข้าร่วม Challenge ไปแล้ว 18 ถ้วย ระยะหลังมานี้ไม่ค่อยได้เพิ่มเพราะระบบ Goal ของเว็บมีปัญหา ส่วนการเข้าร่วม Challenge ก็พบแต่นักวิ่งที่แข็งแรงมากกว่า มีประสบการณ์มากกว่าจึงสู้เขาไม่ค่อยได้ แม้จะวิ่งมาหลายปีแล้วเช่นกัน

ระยะทางที่ไกลที่สุดในการวิ่งหนึ่งครั้งนั้นคือวันที่เข้าร่วม the Human Race 10K ครั้งล่าสุดนี่เอง

ส่วนความเร็วที่ทำได้ดีที่สุดในระยะทางต่างๆ คือ วิ่ง 1 ไมล์ในเวลา 8 นาที 42 วินาที, วิ่ง 5 กิโลเมตรได้ในเวลา 27 นาที 7 วินาที และวิ่ง 10 กิโลเมตรได้ในเวลา 55 นาที 33 วินาที (วิ่งอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้ว)

ถัดลงมายังมีสรุปให้อีกด้วยว่าวิ่งเฉลี่ย 4 ครั้งแต่สัปดาห์และวิ่งวันอาทิตย์บ่อยที่สุด สามารถกำหนด Goal เพื่อช่วยให้วิ่งบ่อยกว่านี้ หรือจะเลือกโปรแกรมราวกับมีผู้ฝึกสอนส่วนตัวเลยก็ยังได้

Goal ล่าสุดที่บรรลุได้มีดังนี้

 

ส่วน Challenge ณ วันที่ครบรอบสามปีมีที่กำลังแข่งกันอยู่ 12 รายการ ที่เสร็จสิ้นไปแล้ว 81 รายการตั้งแต่เริ่มวิ่งมาก

 

จากนั้นก็มาถึง 6000KM จนได้

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมปีที่แล้ว สามารถสะสมระยะทางถึง 5000KM เป็นที่เรียบร้อย และระบบก็ปรับรหัสสีขึ้นเป็นสีดำ เป็นระดับสูงสุดของระบบแล้ว

 

 


แรกสุดตั้งใจว่าจะแยกเขียนถึงหลักชัยสำคัญของการวิ่งครั้งนี้ไว้อีกเรื่องหนึ่ง โดยจะเขียนเรื่องครบสามปีให้เสร็จก่อน แล้วค่อยวิ่งให้ครบ 6000KM แล้วเขียนสรุปอีกครั้ง แต่สถานการณ์ต่างๆ ก็พาไปจนกระทั้งต้องพาทั้งสองเรื่องมาเขียนไว้ในที่เดียวกัน

นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร ใช้โอกาสนี้สะสมความภาคภูมิใจไว้ในตัวเพื่อให้มีกำลังก้าวหน้าต่อไปเป็นดีที่สุด และในวันที่ 5 พฤษภาคม วันฉัตรมงคลที่ครบรอบ 60 ปี พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก็เป็นวันเดียวกับที่สามารถสะสมระยะทางได้ถึง 6000KM ได้ในที่สุดด้วยระยะเวลาประมาณ 14 เดือน

 

 


แม้จะเป็นเพียงการเดินสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยความคิด สติและการวางแผนมากมายจนสามารถมาถึงวันนี้ได้ อุปสรรคเรื่องสุขภาพที่ขัดขวางการออกกำลังกายปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือสติที่สามารถกำหนดให้รู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและสามารถวางแผน ปรับแผนการออกกำลังกายให้สอดคล้องกับมันเพื่อให้ออกกำลังกายได้ต่อเนื่องยาวนาน และต่อเนื่องต่อไป

อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ต้น การบังคับให้ตัวเองออกวิ่งอย่างสม่ำเสมอว่ายากแล้ว การบังคับตัวเองให้นั่งนิ่งๆ แล้วเริ่มเขียนสรุปความภาคภูมิใจที่ผ่านมาตลอดปีนั้นยากยิ่งกว่า เป้าหมายถัดไปเร็วๆ นี้ก็คือการเลือกหารองเท้าวิ่งคู่ใหม่มาใช้ หลังจากรองเท้าคู่ที่ใช้อยู่นี้วิ่งไปแล้วกว่า 1,800 กิโลเมตร พื้นรองเท้าก็สึกไปจนเริ่มส่งผลกระทบต่อข้อหัวเข่าแล้ว ส่วนคู่ Zoom Victory+ หลังจากที่พักอยู่ในกล่องไปนาน ก็พามาใช้แทนรองเท้าแตะเมื่อเวลาออกไปทำธุระนอกบ้าน เพราะจะทิ้งไว้เฉยๆ ก็น่าเสียดาย แต่หากจะพามาใส่วิ่งก็เกรงเรื่องการรับน้ำหนักจนต้องเปลี่ยนรองเท้าไปเป็นคู่ปัจจุบันนี้เอง


ข้อมูลเพิ่มเติม